Tips BabyMoon plus 1 ทริปดีต่อใจคนท้อง พาเบบี๋น้อยในพุงบวกลูกหนึ่งเที่ยวส่งท้ายก่อนคลอด

ว่าด้วยเรื่องการ babymoon หรือเที่ยวตอนตั้งครรภ์ ที่เดี๋ยวนี้เห็นแม่ๆท้องยุคใหม่มาเที่ยวกันเยอะ

หม่ามี๊แพนด้าได้มีโอกาสเที่ยวตอนท้องแก่ๆ สมัยที่ท้องแรก ตอนท้องแพนด้า เลยมีความคิดบวกกับการ babymoon มาตลอด และพอท้องสอง จำความเหนื่อยเพลียของสองสามเดือนหลังคลอดได้ คิดว่ายังไงชั้นก็จะเที่ยว babymoon ก่อนคลอดให้ได้รอบนี้

อายุครรภ์เท่าไหร่ที่ควรเที่ยว

จริงๆแล้วการเที่ยวเป็นเรื่องดีนะคะสำหรับคนท้อง เพราะเป็นการผ่อนคลาย คลายเครียด อะไรที่ทำแล้วมีความสุข ว่าที่คุณแม่มีความสุข ลูกในท้องก็มีความสุขไปด้วยค่ะ โดยทั่วไปแล้ว อายุครรภ์ที่ปลอดภัยที่สุด และดีที่สุดสำหรับว่าที่คุณแม่นะคะ คือประมาณ 4 – 6 เดือน คือไตรมาสที่สอง

ไตรมาสแรก คือ ตั้งครรภ์เดือนที่ 1-3 ช่วงเดือนแรก ๆ อาจจะไม่เหมาะกับการเที่ยว (ทั้งใกล้และไกล) เพราะครรภ์ยังไม่แข็งแรง น้องยังเกาะไม่แน่นค่ะ และเป็นช่วงที่ตามสถิติแล้วสามารถแท้งได้ 1 ใน 4 เลย เพราะฉะนั้นเราสามารถลดความเสี่ยงได้โดยการดูแลตัวเอง และอาจจะเลี่ยงการเดินทางถ้าไม่จำเป็นค่ะ นอกจากนี้ เดือนแรกๆ ส่วนใหญ่จะยังมีอาการแพ้ท้อง และอาการต่างๆ ของการตั้งครรภ์ (เช่น ท้องอืด ท้องเฟ้อ อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย) อาจจะทำให้เที่ยวไม่สนุกค่ะ

ไตรมาสที่ 3 คือครรภ์เดือนที่ 7-9 จริงๆ แล้วเป็นช่วงที่น้องติดและมีโอกาสแท้งน้อยลงแล้วค่ะ แต่จะมีความไม่สะดวกสบายมากขึ้นคือท้องใหญ่มาก เดินทางไม่สะดวก คุณแม่อาจจะเพลียง่าย ปวดเมื่อย ขาเป็นตะคริว นอนหลับยาก ฯลฯ และเป็นช่วงที่อาจจะเกิดการคลอดก่อนกำหนดได้ จึงเป็นช่วงที่ควรต้องระวัง และดูแลตัวเองให้ดีๆหากอยากจะเที่ยวค่ะ

ดังนั้น ไตรมาสที่ดีที่สุดที่จะเที่ยวคือตรงกลางนั่นเอง ไตรมาส 2 ช่วง 4-6 เดือน ขนาดท้องยังไม่ใหญ่เกินไป และน้องเกาะแน่นแล้ว โอกาสแท้งน้อยกว่าไตรมาสแรก

ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องดูเป็นกรณีๆไปนะคะ ว่าที่คุณแม่แต่ละคนมี condition และสุขภาพไม่เหมือนกันค่ะ จึงควรปรึกษาแพทย์ทุกครั้งก่อนไปเที่ยวหรือเดินทางไกลนะคะ แพทย์ที่ฝากครรภ์จะสามารถให้คำแนะนำได้ดีที่สุดค่ะว่าเราแข็งแรงและเดินทางได้มั้ยค่ะ เดินทางใกล้ หรือ ไกลก็ปรึกษาคุณหมอไว้ก่อนนะคะ จะได้สบายใจว่าเราพร้อมและแข็งแรง แน่ๆ ค่ะ

การขึ้นเครื่องบินสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์

คือเวลาบอกคนอื่นว่าจะไปเที่ยวเมืองนอก คนมักจะตกใจว่า ท้องใหญ่ขนาดนี้ เค้าให้ขึ้นเครื่องด้วยเหรอ

ตอบคล้าย ๆ ข้างบนนะคะ คือโดยทั่วไปการเดินทางโดยเครื่องบินไม่เป็นอันตรายกับเด็กในท้องค่ะ ส่วนใหญ่ สายการบินจะมีกฏกำหนดอายุครรภ์ที่สามารถเดินทางได้ โดยกำหนดให้ขึ้นได้สูงสุดที่อายุครรภ์ เป็นช่วงอายุครรภ์ใกล้คลอดค่ะ (ไตรมาสสาม ซึ่งนอกจากจะเป็นเรื่องของความปลอดภัยของผู้โดยสารที่ตั้งครรภ์แล้ว ก็เป็นการลดความเสี่ยงที่ผู้โดยสารจะคลอดบนเครื่องด้วยค่ะ) แต่จะไม่ได้มีแนะนำว่าอายุครรภ์เท่าไหร่ในไตรมาสแรกที่ไม่ควรบิน (เข้าใจว่าส่วนนึงคงสังเกตผู้โดยสารยากด้วยค่ะ คือบางคนถ้าไม่บอกก็อาจจะดูไม่ออกว่าท้อง) เพราะฉะนั้น อันนี้เป็นวิจารณญาณของผู้โดยสารเองนะคะ

อันนี้เป็นตารางสรุปข้อกำหนดของสายการบินต่าง ๆ ค่ะ (เลือกมาบางสายการบินที่นิยมบินกันนะคะ) ว่าอายุครรภ์เท่าไหร่ถึงบินได้ และอายุครรภ์เท่าไหร่ที่บินได้ แต่ต้องมีใบรับรองแพทย์ค่ะ

pregnant table TH

สายการบินส่วนใหญ่ให้บินถึงอายุครรภ์ 28 สัปดาห์ โดยไม่มีกฏให้ต้องมีใบรับรองแพทย์ แล้วพอ 28 สัปดาห์ขึ้นไปถึงจะต้องมีใบรับรองแพทย์นะคะ ว่า Fit to fly หรือแข็งแรงพร้อมที่จะเดินทางได้ ในใบรับรองคุณหมอจะทราบอยู่แล้วว่าต้องใส่ข้อมูลที่สำคัญคืออายุครรภ์และวันกำหนดคลอดค่ะ

แต่ส่วนตัวคิดว่าถึงจะท้องไม่เกิน 28 สัปดาห์ ก็ควรขอใบรับรองแพทย์ไว้ก่อนและพกติดตัวไว้ค่ะ เผื่อว่าสายการบินขอดู เพราะแต่ละคนขนาดท้องเล็กใหญ่ไม่เท่ากัน คือเกิดเราท้องใหญ่มาก แล้วจนท.สายการบินไม่เชื่อว่าท้องไม่เกิน 28 สัปดาห์ จะเสียเวลาเถียงกัน หรือเค้าอาจจะไม่ให้เราขึ้นบินได้นะคะ

ให้ดูท้องมี๊แพนด้าเป็นตัวอย่างค่ะ ท้องสองเราใหญ่กว่าท้องแรกมาก คงอ้วนขึ้นด้วยและพุงเคยผ่านการย้วยมาแล้วเลยไปกันใหญ่ 😆😆

หลาย ๆ สายการบินจะมีข้อกำหนดเยอะกว่าหากเป็นท้องแฝด หรือเป็นครรภ์ที่มีปัญหา (รกเกาะต่ำ มีประวัติคลอดก่อนกำหนด เป็นต้น) โดยสายการบินอาจจะมีเพิ่มเติมให้กรอกแบบฟอร์มเพิ่มเติมจากใบรับรองแพทย์ ซึ่งกรอกละเอียดเรื่องสภาวะครรภ์ของผู้โดยสารที่ตั้งครรภ์ค่ะ ชื่อฟอร์มแต่ละสายการบินก็เรียกต่างๆกันไปค่ะ แต่ส่วนใหญ่เค้าจะมีให้ดาวน์โหลดในเวบเลย

ที่เคยบินมานะคะ โชว์ใบรับรองแพทย์ตั้งแต่ check in เค้าจะเอาใบรับรองแพทย์ไปบันทึกไว้ในระบบ แล้วคืนให้เราเก็บ บินของการบินไทยมาตอน 28/31 วีค (ไป เซี่ยงไฮ้เที่ยว กับโฮจิมินห์ ทำงาน) ไม่มีกรอกเอกสารนะคะ เห็นแต่พนักงาน check in จะมีโทรศัพท์ไปแจ้งใครไม่ทราบ อาจจะเป็นที่หน้าเครื่องนะคะ หลังจากนั้นจะไม่มีถามถึงเรื่องใบรับรองแพทย์อีก บิน Emirates ท้องแรก 34 วีค (ไปนิวซีแลนด์) ก็ขั้นตอนคล้ายกันค่ะ

นี่ยังเก็บใบเก่าไว้เลยค่ะ ขอไปไหนคุณหมอก็ไม่ว่า คุณหมอใจดี 😘

ส่วน low cost เคยบินแต่แอร์เอเชียตอน 30วีค (โซล ไปเที่ยว) ขอใบรับรองแพทย์ไปก๊อปปี้ไว้ และให้กรอกเอกสาร เนื้อหาประมาณว่าให้เราเซนต์รับรองว่าถ้าเกิดอะไรขึ้นไม่เกี่ยวกับสายการบิน จ้า .. อยากเที่ยวเองต้องรับผิดชอบตัวเองอยู่แล้วเนอะ ใบที่เราเซนต์ เค้าจะเก็บไว้ และเอาก๊อปปี้มาแมคติด boarding pass เลย เวลาขึ้นเครื่องเผื่อใครขอดูอีก

ลองอ่านข้อกำหนดโดยละเอียดจากเวบไซต์ของสายการบินต่างๆ คลิกที่ลิงค์นี้เลยค่ะ

Airlines’ Official Guidelines for Expecting/ Pregnant Passengers | คำแนะนำของสายการบินสำหรับสตรีมีครรภ์

ประสบการณ์ส่วนตัวตอนท้องคนจะเตือนเยอะค่ะว่าช่วงไตรมาสแรกให้เลี่ยงการเดินทางโดยเครื่องบิน อย่างที่บอกว่าไตรมาสแรกจะมีความเสี่ยงในการแท้งมากที่สุด คือ 1 ใน 4 ซึ่งการเดินทางบนเครื่องบินอาจจะมีเรื่องของความดันอากาศ ความเหนื่อยจากการเดินทาง (โดยเฉพาะหากเดินทางไกลหลายชั่วโมง) ซึ่งล้วนแต่เพิ่มความเสี่ยงค่ะ เพราะฉะนั้นถ้าจะเอาปลอดภัย เลี่ยงได้ก็ดีค่ะ ส่วนตัวเคยเดินทาง (แค่ใกล้ ๆ บินสองชม.) ตอนท้องประมาณ 4 วีค คือก่อนจะตรวจเจอว่าท้องค่ะ คือบินโดยไม่รู้ตัวว่าท้อง นั่นคือท้องแรกนะคะ แต่หลังจากนั้นก็งดเดินทาง จนครบสี่เดือนค่ะ เนื่องจากตัวเองมีเลือดออกตอน สัปดาห์ที่ 5-7 ต้องฉีดยากันแท้ง (คุณหมอวินิจฉัยว่าแท้งคุกคาม)

เพราะฉะนั้นถ้าให้ตัวเองแนะนำ ก็จะเชียร์คนที่รู้จักให้รอให้ถึงสี่เดือนค่อยเที่ยว หรือเดินทางไกลค่ะ และถ้าหากแข็งแรง (ต้องไม่ใช่แค่คิดเองว่าแข็งแรงนะคะ ต้องให้แพทย์ที่ฝากครรภ์คอนเฟิมด้วยว่าเราแข็งแรงค่ะ) เชียร์ให้เที่ยวต่อตอนไตรมาสสุดท้ายด้วยค่ะ เอาถึงซัก 8 เดือนกว่ายังพอไหวค่ะ คือคิดซะว่าทิ้งทวนให้เต็มที่ เพราะไม่รู้ว่าคลอดเสร็จแล้วชีวิตจะเปนไง เหอๆ จะเหนื่อยจะยุ่งมากมั้ยไรงี้ค่ะ ตัวเองอดเที่ยวไปตอนไตรมาสแรกเพราะไม่แข็งแรง มาเก็บเอาตอนเดือนหลังๆ สมัยท้องแรก แล้วแฮปปี้มาก ท้องสองเอาอีกค่ะ กลับมาก็ยังอยากไปอีก 😆😆

การดูแลตัวเองเมื่อเดินทางตอนตั้งครรภ์

ก่อนเดินทาง

– ปรึกษาคุณหมอที่ฝากครรภ์ทุกครั้งก่อนเที่ยวนะคะ คุณหมอจะให้คำแนะนำได้ด้วยว่าต้องระวังอะไรมั้ยด้วยค่ะ

– เอกสารใบรับรองแพทย์ต้องออกอย่างน้อย 7 วันก่อนเดินทางนะคะ

– อย่าลืมวิตามินที่คุณหมอให้ทานนะคะ ไปต่างประเทศ ถ้าลืมอะไรแล้วไปหาที่นู่นอาจจะหายาก บางประเทศ (เช่นจีน) พูดกันไม่รู้เรื่องอีก เดี๋ยวเบบี๋ได้สารอาหารไม่พอ

– ยาที่จำเป็น ปกติคนท้องจะทานยาอะไรต้องให้คุณหมอที่เราฝากครรภ์เป็นคนจ่ายยา ซื้อยาทานเองไม่ได้ ดังนั้นถ้ามียาอะไรห้ามลืมค่ะ อย่างมี๊แพนด้ามีบางช่วงท้องผูก คุณหมอจะให้ยาไว้เผื่อ ไม่ได้ทานตลอด แต่พกไว้ถ้าฉุกเฉินจะได้มีใช้

– ดูแลตัวเองให้แข็งแรงค่ะ หากคิดจะเที่ยว ช่วง ไตรมาส2 คือ 4 เดือนเป็นต้นไป เริ่มดูแลตัวเองดีๆ ทานอาหารดี ออกกำลังกายเบาๆถ้าคุณหมออนุญาต ง่ายสุดคือว่ายน้ำ และเดินค่ะ การเดินก็เป็นการออกกำลังกายที่ดี จะเดินสวน เดินห้าง เดินไปเถอะ เอาที่แม่ชอบ บางคนไม่ชอบร้อนๆ ไง อย่างที๊แพนด้าก็เดินห้างเอา 😅 การเดินอะ จะได้รู้ตัวเองว่าเราเดินได้แค่ไหนที่ไม่เหนื่อยไป และไม่ปวดขา บางคนเดินเยอะตอนท้องแก่ขาจะบวมนะคะ

– จัดกระเป๋า อันนี้ งานหนักของคุณพ่อ เนื่องจากหม่ามี๊ท้อง ช่วยแบกของมากไม่ได้ นับกระเป๋าดีๆให้คุณพ่อถือไหวนะ แล้วตอนขึ้นเครื่องไม่ต้องมีใบ cabin size หรอก โหลดมันไปให้หมด ตัวจะได้เบาๆ ไหนจะมี๊พุงใหญ่ ไหนจะรถเข็นลูก ไหนจะลูกซนต้องวิ่งจับ

– เตรียมรองเท้าดีๆค่ะ คุณแม่ยอมไม่เปรี้ยวไม่ใส่บู๊ทนะ ใส่รองเท้าผ้าใบดีๆ ดีกว่ากันเยอะเลย หม่ามี๊แพนด้าเลิฟ adidas ultraboost มาก หลังจากลองมาแล้ว ก็รู้สึกว่า NMD กับ slipon ตกกระป๋องไปเลย คือจริงๆ ultraboost คือรองเท้าวิ่ง เค้าออกแบบพื้นรองเท้ามาให้ support คนวิ่งหนักๆ ช่วยเรื่องแรงกระแทก เรานั้นเอามาใส่เดินเที่ยว แต่การมาพื้นรองเท้าดีทำให้เดินแล้วเบาขึ้นเยอะ คือเวลาเราเดินเยอะจะปวดฝ่าเท้า และลามไปถึงปวดเอวปวดหลัง เราลอง ultraboost มาหลายทริปตั้งแต่ก่อนท้อง เดินวันละ 2 หมื่นก้าว ก็ไม่ปวดฝ่าเท้านะ ปวดเอวบ้าง แต่น้อยกว่าใส่คู่อื่นเยอะ ไม่ได้ค่าโฆษณาใดๆ คือของดีจริงอยากบอกต่อ ราคาเต็ม 6000-8000 บาทแล้วแต่แบบ แต่ลองดูใน adidas.co.th บางช่วงมีลด 50% นะคะ หรือถ้าไปญี่ปุ่นเกาหลี ไปลองดูค่ะ ถูกกว่าบ้านเรา 1000-2000 บาทในคู่ราคาปกติ

รุ่นนี้ซื้อตอนมันตกรุ่น คือพอเค้าออกใหม่รุ่นก่อนหน้าจะเอามาลด 50% จาก 7พันเหลือ 3พันกว่าค่ะ

ระหว่างเดินทาง

บนเครื่องบิน

– พยายามทานน้ำให้ปกตินะคะ เข้าใจว่าขึ้นเครื่องอาจจะไม่มีน้ำให้เราทานได้เท่าอยู่บ้าน แต่ต้องคอยขอพนักงาน ไม่งั้นก็พกขึ้นไปค่ะเป็นขวด การรักษาความชุ่มชื่นให้ร่างกายสำคัญมากเพราะบนเครืาองบินอากาศแห้ง ยิ่งบินไกลยิ่งต้องคอยจิบน้ำบ่อยๆ เพราะปกติแม่ท้องร่างกายจะต้องการน้ำมากขึ้นอยู่แล้ว หากทานน้ำไม่พอ มีความเสี่ยงเรื่องไตอักเสบ อันตรายมากๆ นะคะ หรืออีกอย่างคือทานน้ำน้อยมีผลต่อการขับถ่าย แม่ท้อง จะท้องผูกง่ายอยู่แล้วด้วย เราต้องไม่ท้องผูกตอนเที่ยวค่ะเดี๋ยวไม่หนุก

– การเข้าห้องน้ำ นั่งที่ๆออกมาเข้าห้องน้ำได้ง่ายนะคะ aisle seat ริมทางเดิน จะได้ไม่ต้องเบียดพุงตอนขยับออกมา แล้วอย่าอั้นค่ะ การอั้นปัสสาวะจะมีความเสี่ยงให้ไตอักเสบเช่นกัน

– หากเดินทางบนเครื่องบิน หรือนั่งรถหลายชั่วโมง  ให้คอยยืดเส้นยืดสาย ยืดขา กันเป็นตะคริวค่ะ หาอะไรรองเท้า เพื่อป้องกันเท้าบวมค่ะ

ระหว่างทริป การเดินทางทั่วไป

– คอยสังเกตุตัวเองบ่อย ๆ ค่ะ ระวังอย่าให้เหนื่อยเกินไป คอยดูว่าทำอะไรหนัก แล้วท้องแข็งอะไรงี้มั้ย ต้องคอยพักค่ะ

– สำคัญกว่าบนเครื่องก็ระหว่างวันนะคะ ระวังเรื่องการเข้าห้องน้ำ คนท้องเข้าห้องน้ำบ่อย อย่าอั้นนะคะ ควรแพลนตารางประจำวันให้ไปที่ๆไม่ได้ยากต่อการเข้าห้องน้ำมากไป ถึงแม้จะต้องเข้าห้องน้ำบ่อย ก็ไม่ควรอดน้ำนะคะ คนท้องควรทานน้ำเยอะ ๆ ไม่งั้นถ้า dehydrate ก็ไม่ดีกับสุขภาพเช่นเดียวกันค่ะ คอยจิบน้ำบ่อย ๆ ค่ะ

– พกขนมของทานเล่นที่มีประโยชน์ไปด้วยระหว่างเดินทาง เพราะจะหิวบ่อย และเดี๋ยวจะปวดท้องไม่สบายตัวค่ะ พกสิ่งที่ชอบไป เพราะเดินทางบางที่อาจจะไม่มีของที่เราอยากทานค่ะ ส่วนตัวชอบพกพวกถั่วอัลมอนด์ นม หรือนมถั่วเหลือง และ energy bar เอาแบบเป็นข้าวโอ๊ตหรือโฮลวีต พกสะดวกดีค่ะ

– เลือกร้านอาหาร อย่า Adventure มากนะคะ จะลองชิมอะไรดูเรื่องความสะอาดด้วย ยังไงทานร้านดีๆ หน่อย แล้วเลือกของปรุงสุกร้อน ๆ จะปลอดภัยที่สุด ถ้าอยากสตรีทฟู้ด คอนเซปเดียวกันคือต้องปรุงร้อนใหม่ๆให้เราเห็น จะได้ไม่ต้องกลัวอาหารเป็นพิษ อันตรายมากสำหรับคนท้องและเด็กจ้า

– เที่ยวเอง หรือเที่ยวทัวร์ดี

ตอนท้องแรก เที่ยวนิวซีแลนด์ 34 วีค ไปทัวร์ค่ะ ก็สบายไปอย่าง คือนั่งรถอย่างเดียว ไม่ต้องคิดอะไร ได้กินข้างตรงเวลาสามมื้อ เดินน้อยมากไม่เหนื่อยเท่าไหร่ แค่จะไม่ flexible เรื่องตาราง คือออกเช้าตามคนอื่น ตอนนั้นมีแค่สองคนกันเองก็พอไหวอยู่

แต่พอท้องสอง บวกลูกหนึ่ง อายุ 5 ขวบกว่า ถึงแม้จะรู้เรื่องมากแล้ว ก็รู้สึกว่าเที่ยวเองง่ายกว่า จัดตารางตามใจเราได้ด้วย

ทริปเซี่ยงไฮ้ 27 เกือบๆ 28 วีค เที่ยวเอง แต่เลือกเที่ยวแต่ในเมือง แบบมีนั่งรถไฟนะคะ และเลือกรร.ตรง east nanjing street อยู่ตรงถนนช้อปปิ้ง และเดินไป the bund ได้เลยคือเซฟเวลาเดินทางด้วย

ทริปโซล 30 วีค เที่ยวเองเช่นกัน อันนี้เน้นเที่ยวนอกเมืองเพราะจะขับรถ จะได้เดินน้อยหน่อย ปรากฏว่าที่เที่ยวที่เลือก บางวันก็แอบเดินเยอะ 😆😆

แต่โดยรวมสองทริปหลังจัดว่าดีนะ เราว่าบ้านไหนท้องบวกลูกหนึ่งแบบเรา เที่ยวเองจะต้องเสียเวลาแพลนทีเที่ยวหน่อย แต่สะดวก อยากไปไหนก็ไป ตื่นสายแค่ไหนก็ได้ อยากพักนานๆ ก็พักได้ และเราใช้เวลากับ 1 ที่นานกว่า เพราะเราเดินช้า 😅 และต้องกระเตงเด็กห้าขวบกว่าอีกด้วย

เอาใจช่วยว่าที่คุณแม่ทุกคน ขอให้สุขภาพแข็งแรง ๆ ค่ะ


One response to “Tips BabyMoon plus 1 ทริปดีต่อใจคนท้อง พาเบบี๋น้อยในพุงบวกลูกหนึ่งเที่ยวส่งท้ายก่อนคลอด”

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Twitter picture

You are commenting using your Twitter account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s

%d bloggers like this: