ทริปนี้เรานอนฝั่ง Old Quarter อารมณ์ประมาณถนนข้าวสารบ้านเรา มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเยอะ จะมีร้านอาหารเยอะ ร้านกาแฟ ร้านเล็กๆน่ารัก ราคาน่ารัก วันสุดท้ายเรามาเดินเล่นฝั่ง French Quarter ได้ข่าวว่าไฮโซ คือห้างหรูสุดของฮานอยอยู่ตรงนี้ และมี Opera House ที่เป็นหนึ่งใน land mark ด้วย เลยว่าจะมาหาร้านกาแฟทานแถวนี้ค่ะ ก็ไปเจอกับร้านนี้ เพราะอยู่ตรงเยื้องๆ กับ Opera House เลย เรามองขึ้นไปมีที่นั่งด้านบน open air ด้วย กับวันอากาศดี ๆ ของฮานอย เราไปช่วงเมษา หยุดสงกรานต์ ยังอากาศ 20 องศาต้นๆ เอง
เราว่าเวียดนามเป็นประเทศที่มีความมุ้งมิ้ง เทียบกับบรรดาประเทศเพื่อนบ้านรอบๆเรา ดูได้จากร้านต่างๆที่จะมีร้านตกแต่งน่ารักเยอะแยะ แล้วราคาก็ไม่ได้แพง .. ยกเว้นฝั่ง french quarter เนี่ยแหละที่ราคาสูงหน่อย ก็เหมือนราคาคาเฟ่แพงๆบ้านเราเลย แต่เอาน่าไหน ๆ มาแล้ว ขอมากินบรรยากาศซะหน่อย
บรรยากาศภายใน ตกแต่งสวยงาม ร้านนี้มีอาหารด้วยค่ะไม่ใช่แค่กาแฟกับขนมเท่านั้น
แต่เราเลือกนั่งชั้นสองค่ะ ที่มีโซน open air มองออกไปเห็นวิว Opera House เลย
คือวิธีมาร้านนี้ง่ายมาก คือเดินมุ่งหน้ามาหา Opera House พอเราเห็น Opera House อยู่ด้านหน้า เดินเบี่ยงมาทางขวาเรื่อยๆ จะเจอร้านอาหารติดๆ กันหลายร้านเลยค่ะ เราเลือกร้านนี้จากหน้าตาล้วนๆ คือตกแต่งน่ารักน่านั่ง Opera House หน้าตาเบลอๆ ให้ดูตามรูปข้างล่างค่ะ ขออภัย มือใหม่หัดถ่ายกล้อง mirrorless ชัดบ้างไม่ชัดบ้าง ^^
เราลองสั่งเครื่องดิ่มและเค้กทานค่ะ ไม่ได้สั่งอาหารเพราะเพิ่งทานอิ่มมา แอบเสียดายแหละ มองโต๊ะข้างๆสั่งอาหารก็หน้าตาน่าทาน ชีสเค้กอร่อยดีค่ะ ชิ้นนึงตกร้อยกว่าบาท นี่มันราคาคาเฟ่กทม.เลย 😉 ส่วนถ้วยนี้คือ egg coffee ที่เป็น signature ของฮานอย ร้านคาเฟ่หลายๆร้านจะมีเมนูนี้ วันก่อนเราเพิ่งทาน egg coffee ฝั่ง old quarter ร้านเล็กๆ มา รสชาติไม่ต่างกัน แต่ราคาร้านนี้คูณสามจ้า คือจาก 30000 VND (ประมาณ 50 บาท) มาเป็น 90000 VND (ประมาณ 150) งี้เลย ก็คิดว่าเสียค่ามานั่งชมวิว Opera House ละกัน 😉
แผนที่กับรายละเอียดร้านนะคะ