ทริปนี้เป็นทริปแรกที่เราไปกันสามคน อาม่า หม่ามี๊ และแพนด้าค่ะ ปกติจะต้องมีป๊าไปด้วยตลอด จะมีผู้ชายแข็งแรงไว้คอยช่วยทุกอย่างที่ต้องใช้แรง เช่นแบกของ เข็นกระเป๋า แบกลูกเวลานางงอแง ทริปนี้ไปกันสาวสาวสาว ต้องดูแลตัวเอง อย่างแรกที่เราเลือกเพื่อเซฟตัวเองคือเลือกโรงแรมสะดวกๆ เพื่อเซฟพลังงานค่ะ
Tips เลือกที่พักที่ฮ่องกง
สำคัญมาก ๆ เพื่อช่วยประหยัดเวลาการเดินทาง และเซฟร่างกายกับสุขภาพเท้า เพราะปกติฮ่องกงเนี่ย เราจะเดินกันค่อนข้างเยอะเนอะ นั่งรถไฟเที่ยวเป็นหลัก เพราะแท๊กซี่แพง คราวนี้เราเลยตั้งใจเลือกโรงแรมมากๆ โจทย์ของเราคือ
- ใกล้สถานีรถไฟ ให้เดินน้อยที่สุด เพราะสถานีหลัก (ไม่ว่าเราจะพักฝั่ง Kowloonจิมซาจุ่ย สถานี Tsim Sha Tsui หรือฝั่งฮ่องกง สถานี Central ทั้งสองสถานีนี้ก็ใหญ่ และเดินภายในสถานีกันค่อนข้างไกลทีเดียว) เราเลยอยากได้โรงแรมที่ห่างสถานีไม่เกิน 5 นาทีจะดีมาก
- ใกล้ร้านอาหารต่าง ๆ มาฮ่องกงทั้งที โปรแกรมอาหารเช้ากลางวันเย็นต้องจัดเต็ม การเลือกโรงแรมใกล้ร้านอาหารอร่อย ทำให้เราสะดวกทั้งมื้อเช้า และมื้อค่ำทานก่อนเข้ารร.
- ใกล้แหล่งช้อป คือช้อปเสร็จจะได้ไม่ต้องแบกของเดินกลับรร.ไกล
- ราคาอยากได้อยู่ที่คืนละ 3000 กว่า หรือ 2000 ปลายๆได้ยิ่งดี ฮ่องกงเป็นประเทศที่รร.ค่อนข้างแพง แล้วห้องเล็กอีกต่างหาก ถ้านอนห้าดาวนี่ 8000-10000 นึงไปเลย ปาดเหงื่อแปบ ซึ่งเราว่าจ่ายราคาแบบนั้นไม่ค่อยคุ้มเนอะ วันๆ เที่ยวจนค่ำ กลับมานอนไม่กี่ชม. เช้าต้องรีบตื่นไปกินโจ๊กอีกและ 😉
ได้โจทย์ดังนี้แล้ว ก็มาหาโรงแรมกันดีกว่า รอบนี้ได้ deal ดีงามจาก Traveloka ตอนแรกจองแบบ free cancellation ไว้ แล้วพอก่อนเดินทาง 1 เดือนมาหา deal ที่ถูกที่สุดแบบ non-refundable คือคืนเงินไม่ได้แล้ว เพราะเราจะไม่เปลี่ยนใจแล้ว จะได้ราคาถูกที่สุด ใน Traveloka เรากดเลือกสถานที่ที่เราอยากหาคือ Tsim Sha Tsui ได้ แล้วกดเลือกดูแบบแผนที่ วิธีนี้จะง่าย เราเลือกดูแต่โรงแรมที่ใกล้ๆสถานีรถไฟ หรือใกล้สถานที่อื่นตามใจเราได้ บางบ้านอาจจะบอกว่าอยากได้ใกล้ห้าง ก็เลือกเอาตามที่ชอบใจได้เลย แปะลิงค์ไว้ให้จ้า https://www.traveloka.com/th-th/hotel แต่ปกติเราชอบจองในแอพ จะได้ไม่ต้องกรอกข้อมูลส่วนตัวใหม่
รีวิวรร. Hotel Panorama by Rhombus
รีวิว 10 รร.น่าพัก ราคาไม่แรงย่านจิมซาจุ่ย
จัดทัวร์ 3 วัน 2 คืนเที่ยวกันเองแบบ slow life
แชร์โปรแกรมทัวร์กันเองตามประสาเรา ด้วย speed เด็กเล็กและผู้สูงวัย เป็นไอเดียว่าวันนึงไม่ควรเที่ยวเกินนี้ จะเหนื่อยไป 555
วันแรก (ไฟลท์บ่าย ถึงฮ่องกงตอนเย็น)
18.30 เช็คอินที่รร.
19.00 เดินไปแถว Victoria Bay ระหว่างทางก็แวะร้าน แวะถ่ายรูปเล่นไปเรื่อย ถึงใกล้ๆ สองทุ่มพอดี
20.15 เดินกลับมาทานข้าวเย็นที่ Chiu Fat Noodles & Congee ในซอยข้างๆ iSquare
วันที่สอง
9.00 ทานข้าวช้าวร้าน Yuen Kee จริงๆอยากทานหมูแดง แต่เค้าบอกต้อง 10.30 ถึงจะขาย เลยได้ทานหมี่เกี๊ยวแทน
9.30 ออกเดินทางไป Repulse Bay
11.00 เดินเที่ยว ไหว้พระเสร็จ นั่งพักทานกาแฟแก้เหนื่อย
12.00 ออกเดินทางไปวัด Wongtaisin หรือหวังต้าเซียน
12.45 ถึง Wongtaisin MRT แวะทานข้าวที่ร้านแนว Fast Food ของ Maxim ที่ Temple Mall (ระหว่างทางลูกสาวหลับจ้า เราเลยต้องนั่งทานข้าวกลางวันยาวๆๆๆ รอยัยแพนด้าตื่น)
13.45 ลูกตื่น ได้เวลาไหว้พระ ขอพร
14.45 เดินกลับมาช้อปที่ Baleno นิดหน่อย ตรง Temple Mall เพราะคิดแล้วว่าจะแวะกลับรร.เปลี่ยนเสื้อหนาว จะได้ขึ้น the peak ที่อากาศจะเย็นกว่าข้างล่าง ได้ถือโอกาสเอาของช้อปไปเก็บจะได้ไม่ต้องหิ้ว
15.15 ถึงรร. เข้าห้องน้ำ refresh นอนกลิ้งบนเตียง ให้เด็กน้อยพักทานนม ทานขนม
15.45 ออกเดินทางไป the peak เนื่องจากทริปนี้สั้น เราเลยอยากให้อาม่าได้ลองทุกอย่าง เลยเดินจากรร.ไปขึ้นรถเมล์สองชั้น (ป้ายรถเมล์ห่างจากรร. 2-3 นาที) นั่งสองป้าย ลงตรง Star Ferry พอดี แล้วนั่งเรือเฟอร์รี่ข้ามฟากไปลงฝั่ง Central ได้ชมวิวสวยๆ แล้วจาก Central เรานั่งแท๊กซี่ต่อขึ้น the Peak เลย เพราะช่วงเย็นวันอาทิตย์ คนน่าจะรอขึ้น Peak Tram เยอะมาก บัสก็คนเยอะเช่นกัน เราเลยไม่เสี่ยงรอ สามคนนั่งแท๊กซี่สบาย ๆ ดีกว่า ใช้เวลาอีกแค่ 15 นาทีก็ถึง the Peak ค่าเสียหาย 60++ HKD ถือว่าซื้อความสบายให้คุณแม่ของเรานะฮะ
16.15 เรานั่งเล่นบน the Peak ยาว ๆ เลยค่ะรอพระอาทิตย์ตก ได้วิวแบบกลางคืนๆ ไหนๆ ขึ้นมาทั้งที ได้มุมดีที่ร้านกาแฟ Pacific Coffee เค้ามีโซน outdoor ที่ได้วิวแบบนี้ ดีงามมาก มันคือตึกเดียวกับ The Peak Sky Terrace428 ที่มีวิว 360 องศาให้ดู แต่พี่ว่ามานั่งนี่แทน วิวไม่สวยเท่า แต่ดีงามมากสำหรับวิวฟรี นั่งดู Peak Tram เล่นได้ด้วย
18.30 ได้เวลาลงจาก Peak มาหาข้าวทานแถวรร.จ้า มื้อนี้เราเลือกเกี๋ยวกุ้งเจ้าอร่อย Lung Kee อร่อยมากกกกก
20.00 ถึงรร.แบบเพลียๆ วันนี้แอบโปรแกรมเยอะไป วันรุ่งขึ้นจะตัดโปรแกรมเช้า เซฟเท้าคุณนายแม่นะฮะ
วันที่สาม
9.00 เหนื่อยยังไงเราก็ต้องตื่นมาหม่ำค่ะ วันสุดท้ายแล้ว มื้อแรก กลับไป Chiu Fat อาม่าอยากกินโจ๊ก แพนด้าอยากกินหมี่เกี๋ยว
10.00 เดินช้อปเบาๆ แวะทานกาแฟชิว ๆ กลับไปนั่งๆ นอนๆบนห้องรอเช็คเอาทฺ์
12.00 เช็คเอาท์ ฝากกระเป๋า ออกมาหม่ำมื้อเที่ยงเป็นติ่มซำ ชื่อ Joy Cuisine ซอยข้าง ๆ รร. ร้านเป็นโต๊ะจีนไฮโซ เรามากินเที่ยงเลยเจอราคาเต็ม แต่ถ้ากินเช้า หรือบ่าย มีลดราคาให้ด้วย เช้าลด 20% บ่ายลด 30%
13.00 เดินช้อประลอกสุดท้ายแถวรร.
15.00 เอากระเป๋าไป in-town check-in
16,00 ถึงสนามบิน (นั่ง Airport Express จาก Kowloon –> Airport ออก Terminal 1) มาต่อรถบัส S1 ไป Ngong Ping Cable Car station บ้านไหนพลังเยอะและเวลาเหลือ จุดนี้สามารถช้อป City Gate Outlet ได้อีกซักสองสามชม.นะ
16.45 นั่ง cable car ข้ามมาถึงหมู่บ้านนองปิง Ngong Ping Village เดินไปไหว้พระใหญ่ ตรงนี้ค่อนข้างไกล ควรเผื่อเวลามาเยอะหน่อย ชม. นึงขึ้นไป จะเดินไม่เหนื่อยมาก เราเดินถึงพระใหญ่ 17.15 คือยังไม่่ได้เดินขึ้นไปเลย อาม่าแพนด้าเดินไม่ไหวด้วย บันไดมันขั้นเยอะมาก เราเลยไหว้แล้วค่อยกลับ แต่ต่อให้อยากเดินขึ้นบันไดไหว ก็ไม่ทันอยู่ดีค่ะ ไปเห็นที่นั่นว่าป้ายเวลาปิดทำการคือ 17.30 แล้วกระเช้า Cable Car ขากลับคือไม่เกินหกโมงเย็น แพลนกันดีๆ ขึ้นกระเช้าไม่ทันนนี่เรื่องใหญ่
18.15 กลับมาสนามบินชิว ๆ เวลาเหลือ ทานดินเนอร์ดีกว่า ที่ Ho Hung Kee ร้านนี้เค้าดังโจ๊ก เพราะหิวกันแล้ว เครื่องออกสามทุ่มกว่า คงรอข้าวเย็นบนเครื่องไม่ไหว
19.30 ได้เวลาไป departures ผ่าน immigration บลา ๆๆ เผื่อเวลาหน่อยนะคะ สนามบินฮ่องกงกว้าง เกิดได้ gate ไกลจะเดินไม่ทันเอา มันมีบาง gate ที่ต้องนั่งรถไฟด้วยนะ
จบโปรแกรมแต่เพียงเท่านี้นะคะ ค่อนข้างพอใจกับทริป คือกำลังดี รู้สึกว่าเหนื่อยแล้ว เมื่อยแล้ว ก็ถึงเวลากลับพอดี ^^
เพิ่มเติมจากการจัดโปรแกรมนี้ รอดกลับมาได้แบบร่างไม่แหลกเกินไป (แต่ปวดหลังใช้ได้เลย 555) สิ่งที่เราได้เรียนรู้จากทริปนี้คือ
1. จัดโปรแกรมดีๆ หลวมๆ ให้เปลี่ยนแปลงได้ ถ้าหากวันไหนเมื่อยเหนื่อยเพลีย จะได้ลดโปรแกรมหน่อย สมาชิกของเราจะได้ไม่งอแง กว่าจะออกมาเป็นตารางนี้ ก็เปลี่ยนกันตลอดละค่ะ โชคดีว่าอาม่าของเราตื่นเช้า เราเลยออกจากรร.ค่อนข้างเร็วทุกวัน เลยเก็บได้หลายสถานที่หลักที่เราอยากจะไป
2. จัดการเดินทางให้ไม่เหนื่อยเกินไป ลดการเดิน ซึ่งการเลือกรร.ใกล้รถไฟมากๆ เซฟแรงไปได้เยอะ บวกกับวางแผนการเดินทางทุกวัน บางที่ นั่งรถไฟไปถึงแล้วต้องเดินต่อไกล เช่น 10 นาที สำหรับคนอายุ 60 กว่า เดินรวดเดียว 10 นาทีแอบเหนื่อยไปหน่อยค่ะ อาม่าแพนด้าจะเป็นคนเมื่อยง่ายด้วย เราเลยใช้วิธี นั่งรถไฟ ต่อแท๊กซี่กับบางที่ เพราะพอนั่งไปใกล้แล้ว ระยะห่างด้วยการเดิน 10 นาที คือนั่งแท๊กซี่แป๊บเดียวก็ถึง เรามีลองนั่งรถเมล์ด้วย คือจากโรงแรมเดินไป Star Ferry ประมาณ 12 นาที เราใช้วิธีเดินไปขึ้นรถเมล์ เดิน 3 นาที ขึ้นรถเมล์ปุ๊บ มันวิ่ง 2-3 นาทีก็ถึงแล้ว แต่เวลาเดินทางโดยรวมอาจจะเยอะกว่าเดิน เพราะต้องรอรถเมล์มาอีก แต่แพลนนี้อาม่าชอบเพราะเดินน้อยลงจริงๆ
3. ฮ่องกงช่วงปีใหม่นักท่องเที่ยวเยอะมาก เวลาเดินต้องคอยระวังกันดีๆ ค่ะ ทั้งอาม่าและเด็ก
4. ใช้บริการ in-town check-in สายการบินใหญ่ ๆ มีหมดนะคะ ลองเช็คในเวบเค้าอีกทีนะ http://www.mtr.com.hk/en/customer/services/complom_checkin.html เซฟเวลาและพลังงานไปเยอะค่ะ ทริปนี้มีแต่สาวเล้กสาวใหญ่ แม่แพนด้าเลยรับหน้าที่แบกกระเป๋า แบกทุกอย่าง ล้ามาก วันสุดท้ายเราเช็คเอาท์จากรร.แล้วเอากระเป๋าไปโหลดที่ Kowloon Airport Express Station เลยค่ะ จากจิมซาจุ่ยไปไม่เกิน 15 นาที นั่งแท๊กซี่โลด เพราะแบกเป๋าขึ้นรถเมล์ไม่ไหวและ (แต่ถ้าแบกไหว จากรร.แถวจิมซาจุ่ยจะมีรสบัส Airport Express ฟรี ไป Kowloon station ได้เช่นกัน) จะได้เอาเวลาไปเดินเที่ยวกันสบาย ๆ วันสุดท้ายก่อนขึ้นเครื่อง
บ๊ายบายกันด้วยรูปสองสาวสองวัย ทริปหน้าไปเที่ยวกะทัวร์มั่งดีมั้ยน๊าาา 555 ^^