#รีวิวจัดเต็มกับข้อมูลเปรียบเทียบประกันการเดินทาง
รวมรวมข้อมูลเปรียบเทียบประกันการเดินทางของแต่ละบริษัทแบบละเอียด รวมถึงข้อมูลเบื้องต้น อายุของผู้ที่สามารถซื้อประกันได้
แพนด้าเคยรีวิวเรื่องประโยชน์ของการซื้อประกันการเดินทางมาก่อนหน้านี้เพราะคิดว่าเป็นสิ่งสำคัญและมีประโยชน์กับแฟนเพจมากๆ และมีแฟนเพจหลายๆ ท่านแชร์ประสบการณ์ดีๆ ของตัวเองเข้ามาด้วยนะคะ วันนี้เลยอยากจะมาลองรีวิวแบบละเอียดขึ้นจากประกันการเดินทางบริษัทต่างๆ ที่มีในตลาด โดยมองถึงประกันที่ให้ความคุ้มครองเหมาะกับนักเดินทางแบบครอบครัวที่มีเด็กเล็กเดินทางด้วยค่ะ
อ่าาน blog ก่อนได้ที่นี่เลย 5 เหตุผลที่ควรซื้อประกันการเดินทาง | เที่ยวสบายใจไร้กังวล เบี้ยหลักร้อย คุ้มครองหลักล้าน)
ขอให้เครดิตกระทู้นี้ที่เป็นแรงบันดาลใจให้ลองรีวิวละเอียดๆ มากค่ะ กระทู้นี้เขียนไว้น่าสนใจมากและละเอียดมากในการเปรียบเทียบประกันบริษัทที่เราคุ้นชื่อกัน สำหรับนักเดินทาง backpacker
รวบรวมข้อมูลเปรียบเทียบ”ประกันการเดินทาง”ของแต่ละบริษัทที่เหมาะกับBackpacker
สำหรับการเดินทางแบบครอบครัว เราจะมีข้อมูลสำคัญอย่างอื่นที่อยากรู้ เลยเอาไอเดียมาเพิ่มเติมเป็นรีวิวนี้นะคะ
- หาประกันที่ครอบคลุมเด็กเล็ก ข้อมูลอายุของผู้เอาประกันที่ซื้อประกันการเดินทางแต่ละบริษัทได้
- ความคุ้มครองอื่นๆ นอกเหนือจากการรักษาพยาบาล อุบัติเหตุ
- ยื่นวีซ่าเช็งเก้นได้ (ดูข้อมูลเพิ่มเติมตามนี้ค่ะ “ประกันการเดินทางสำหรับขอวีซ่าเช็งเก้น”) ** ช่วงนี้ blog ของแพนด้าจะได้รับความนิยมในหัวข้อเที่ยวอังกฤษและทำวีซ่าค่ะ เลยเน้นหาประกันที่รับรองให้ยื่นวีซ่าเช็งเก้นได้ด้วย และเปรียบเทียบราคาค่าเบี้ยประกันโดยเลือกประเทศที่ไปเป็นยุโรป/เช็งเก้น และเช็คราคาที่ 7 วันนะคะ
หมายเหตุ
- ข้อมูลที่แสดงเป็นข้อมูลที่หาจากเวบไซต์ของแต่ละบริษัท ซึ่งอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงตัวเลขหรือเงื่อนไขได้ หากต้องการซื้อประกันควรเช็คข้อมูลล่าสุดเสมอ
- ข้อมูลเกี่ยวกับเงื่อนไขความคุ้มครองเป็นหัวข้อกว้างๆ ซึ่งแต่ละบริษัทอาจจะมีเงื่อนไขต่างกัน โดยปกติเค้าจะถือว่าเอกสารกรมธรรม์เป็นข้อมูลหลักเรื่องความคุ้มครอง ดังนั้นข้อไหนไม่ชัดเจนควรโทรสอบถามที่บริษัทโดยตรงก่อนซื้อหรือตัดสินใจ
- รีวิวนี้เป็นการเปรียบเทียบจากข้อมูลเท่านั้นนะคะ ผู้เขียนมีประสบการณ์ตรงแค่ของบางบริษัท และยังไม่เคยใช้บริการเคลมไม่ว่าจะของบริษัทไหน จึงอาจจะไม่สามารถให้ข้อมูลด้านนั้นได้ค่ะซึ่งประกันการเดินทางก็มีหลากหลายรูปแบบให้เลือก มีทั้งประกันการเดินทางรายเที่ยว และประกันการเดินทางรายปี ขึ้นอยู่กับว่าผู้เดินทาง เดินทางบ่อยแค่ไหน แนะนำให้ ดูข้อมูล เปรียบเทียบประกันการเดินทาง ทั้งสองแบบ และเลือกประกันการเดินทางที่เหมาะสมกับคุณที่สุดนะคะ
มาเริ่มกันดีกว่าค่ะ เราจะเปรียบเทียบหลัก ๆ เป็นขั้นตอนดังนี้นะคะ
** 1.เลือกจากบริษัทที่คุ้นชื่อ google คำว่า ประกันการเดินทาง แล้วขึ้นมาอยู่ใน top 10 แรกที่เห็น
** 2. เลือกบริษัทที่ประกันการเดินทางรับรองว่าใช้ยื่นขอวีซ่าเช็งเก้นได้
** 3. ดูข้อมูลเบื้องต้น อายุของผู้ที่สามารถซื้อประกันได้ ราคาเบี้ยของแผนประกันขั้นต่ำสุดที่ใช้ยื่นขอวีซ่าเช็งเก้นได้
แผนประกันที่สามารถยื่นขอวีซ่าเช็งเก้นได้จะราคากลาง ๆ คือไม่ใช่แผนถูกสุด (อย่างรีวิวประกันสำหรับ backpacker เค้าจะเบี้ยอยู่ที่ 100-300 บาทเท่านั้น) และอันนี้เราดูที่การเดินทาง 7 วันด้วยค่ะเลยราคาสูงกว่าหน่อย แต่เอาจริงๆไม่แพงเลย ราคาถูกกว่าซื้อแพคเกจอินเตอร์เนตอีกนะคะ
– การยื่นวีซ่าเช็งเก้น – ในตารางนี้ได้หมดนะคะ แต่จะมี Cigna / AXA / Bupa / MSIG ที่มีรับรองคืนเงิน 100% ด้วยถ้าวีซ่าไม่ผ่าน คือก่อนจะยื่นขอวีซ่าเช็งเก้น เราต้องซื้อประกันการเดินทางก่อนแล้วใช้เป็นเอกสารแนบเพื่อการพิจารณายื่นขอวีซ่า
– สำหรับการยื่นขอวีซ่าประเทศอื่นๆ อาจจะไม่ได้บังคับว่าต้องมีประกันการเดินทาง แต่การทำประกันการเดินทางก็สามารถเพิ่มความอุ่นใจให้กับผู้เดินทาง และคนในครอบครัว เช่น ถ้าเราจะยื่นขอวีซ่าประเทศอังกฤษ เราก็สามารถใช้ประกันการเดินทางยื่นไปพร้อมกับเอกสารขอวีซ่าอังกฤษได้
– อายุ – ส่วนใหญ่เริ่มที่ 1 ขวบนะคะ ซึ่งเป็นอายุที่ครอบครัวส่วนใหญ่เริ่มพาลูกเที่ยวครั้งแรก แต่ถ้าบ้านไหนอยากเที่ยวเร็วหน่อย จะมี Bupa รับที่อายุ 1 เดือน และ AIG ที่ได้ต้งแต่แรกเกิดนะคะ
– ราคา – ช่วงค่อนข้างกว้างค่ะ แต่เราขอตัด Muangthai 1225 ไป ราคาเว่อกว่าคนอื่นเยอะ ที่เหลือคือจะมีราคาช่วง 300-600 บาท กับ 600-800 ให้เลือก แต่ควรดูรายละเอียดอีกทีค่ะ อันถูกมากไม่แน่ใจว่าคุ้มครองน้อยกว่ากันมากรึเปล่า เดี๋ยวมาดูละเอียดกันอีกทีค่ะ
**4. มาดูเรื่องความคุ้มครอง
เราแบ่งเป็น 4 ประเภทความคุ้มครองให้ดูง่าย ๆ ค่ะ ใครชอบละเอียดๆ เลื่อนไปด้านล่างมีตารางให้ดูเลย ดูไปดูมาเริ่มมึนเนอะ 555 ข้อมูลเยอะมากมาย ใครขี้เกียจอ่าน สรุปให้ค่ะ อันนี้ตามความเห็นส่วนตัวนะคะ เรามาให้คะแนนกันว่าประกันแบรนด์ไหนเด่นเรื่องความคุ้มครองอะไร
<1> เกี่ยวกับประกันกรณีเสียชีวิต อุบัติเหตุ บาดเจ็บ เจ็บป่วย — สูสีกันทุกที่ รวม ๆ Bupa ชนะเลิศตรงที่มีค่าขนย้ายผู้ป่วยตั้ง 30 ล้านแน่ะ
<2> เกี่ยวกับสัมภาระ — Cigna & AXA
<3> ชดเชยเกี่ยวกับเที่ยวบิน — cigna ให้มูลค่าความคุ้มครองเยอะ AXA & MSIG ประเภทความคุ้มครองครบกว่า
<4> ความคุ้มครองอื่น ๆ — MSIG ให้ประเภทความคุ้มครองเยอะ แต่ถ้ามูลค่าความคุ้มครองอันที่น่าจะได้ใช้จริงๆ จะมี Aig & AXA
5. ข้อมูลอื่นๆ เกี่ยวกับบริษัทและประกัน
- บริการ call center 24 ชม. Cigna, AIG, AXA, MSIG ส่วน Bupa หาในเวบไม่เจอข้อมูลนี้ค่ะ
- แต่ละบริษัทมาจากรประเทศอะไร Cigna & AIG – USA, AXA – France, Bupa – UK, MSIG – Singapore
- อันดับโลกเทียบในบริษัทประกัน มี AXA ติดอันดับสองของโลก
http://www.iii.org/publications/international-insurance-fact-book-2016/world-rankings
6. สรุปประกันอะไรเหมาะกับใคร
- ลูกเล็กยังไม่ครบขวบ : Bupa & AIG เท่านั้นค่ะ
- ลูกเกินขวบแล้ว
- อยากได้ประกันแค่พื้นฐานไว้แค่ยื่นวีซ่าได้ก็พอไม่สนใจความคุ้มครอง MSIG Visa ราคาถูกสุด
- อยากได้ประกันสำหรับยื่นวีซ่าเช็งเก้น (Schenken) ของยุโรปและไม่มั่นใจว่าจะยื่นผ่าน เลือก Cigna / Bupa / AXA / MSIG ที่มีรับรองคืนเงิน 100% ด้วยถ้าวีซ่าไม่ผ่าน
- อยากได้ความคุ้มครองเยอะ คือครอบคลุมเรื่องอุบัติเหตุ สุขภาพแล้ว ยังครอบคลุมเรื่องสัมภาระ เที่ยวบิน ฯลฯ Cigna, AXA, MSIG เลือกเอาแบรนด์ที่ชอบค่ะ แต่ถ้าความคุ้มค่า แนะนำ Axa Gold ราคาถูกสุดเทียบกับความคุ้มครองที่ให้ค่อนข้างครบเกือบจะเท่า Axa Platinum ซึ่งคุ้มครองมากกว่าแค่นิดหน่อย
- อยากเลือก customize แผนความคุ้มครองเอง Cigna เลือกประกันเสริมได้ค่ะ
7. เมื่อซื้อประกันการเดินทางแล้ว อย่าลืม tips เหล่านี้นะคะ
- ซื้อออนไลน์ได้ ซื้อวันนี้ คุ้มครองพรุ่งนี้ ว่างตอนไหนก็ซื้อได้ 24 ชม. สะดวกมาก
- บ้านไหนไม่ถนัดซื้อออนไลน์ จะซื้อผ่าน call center ก็ได้ค่ะ
- ซื้อเสร็จแล้วปริ้นท์เอกสารพกติดตัวไว้ตอนเดินทาง ถ้าเกิดเหตุใช้ได้เลยค่ะ
- อย่าลืมเก็บใบเสร็จกรณีต้องเคลมนะคะ ไม่งั้นถ้าลืมขอทีหลังต่างประเทศจะขอยากจ้า
happy travel ขอให้การเดินทางราบรื่น ไม่ต้องใช้ประกันกันนะคะ ^^
== ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับเพื่อนๆ ที่อยากศึกษาข้อมูลละเอียดขึ้น ==
** หมายเหตุ ** ควรอ่านเอกสารกรมธรรม์จริงของประกันเป็นหลักนะคะ ข้อมูลด้านล่างนี้มาจากเวบไซต์ของทุกบริษัท ช่วง ม.ค. 2560 ข้อมูลอาจจะเปลี่ยนแปลงได้ตลอด เช็คล่าสุดก่อนซื้อจะดีที่สุด วางลิงค์ทุกบริษัทไว้ให้เข้าไปศึกษาเพิ่มเติมค่ะ
https://travel.cigna.co.th/CIMS/#/insurance/destination
http://www.travelguard.com/thailand/B2B2C1/
https://www.msig-thai.com/ecommerce/travel.php?lang=en
https://direct.axa.co.th/TA/CoverageOptionPlan?xtatc=INT-1-product_travel_insurance_buy
https://www.bupa.co.th/BupaTravelOnline/en/index.aspx
ตารางความคุ้มครองของประกันพร้อมรายละเอียดของแบรนด์หลักๆ ที่เรา short list มาแล้ว ตามมาเลยค่ะ
<1> อย่างแรกเป็นเกี่ยวกับประกันกรณีเสียชีวิต อุบัติเหตุ บาดเจ็บ เจ็บป่วย จะเห็นว่าเหมือนกันหมด ยกเว้น Cigna มีระบุมาว่าคุ้มครองกรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพจากเหตุที่เกิดขึ้นขณะโดยสารเครื่องบิน
ถ้าลองดูความคุ้มครองเป็นตัวเงินตามแพคเกจ สรุปมาตามตารางข้างล่างค่ะ (หมายเหตุข้อมูลจากเวบไซต์ ณ วันที่เขียน ม.ค. 2017) ลองเช็คข้อมูลอัพเดทล่าสุดก่อนซื้อนะคะ
ความคุ้มครองเป็นตัวเงินจะต่างกันไม่มาก และจะมี Bupa ที่ให้ค่าใช้จ่ายในการขนย้ายผู้ป่วย หรือส่งศพกรณีเสียชีวิตเยอะเป็นหลัก 30 ล้านบาท
<2> เกี่ยวกับสัมภาระค่ะ ตั้งแต่เสียหาย สูญหาย หรือกระเป๋าจากเที่ยวบินมาล่าช้า และ <3> ชดเชยเกี่ยวกับเที่ยวบิน จะเห็นว่าบางแพคอย่าง Easy Visa และ Bupa ไม่มี เพราะเค้าเน้นประกันตัวหลัก คือ Easy Visa เน้นคุ้มครองเบสิกเพื่อไว้สำหรับยื่นขอวีซ่าได้ ส่วน Bupa คล้ายกันค่ะ เน้นแค่สุขภาพและอุบัติเหตุ
แต่ถ้ามาดูเป็นเรื่องมูลค่าความคุ้มครองจริงๆ อันที่สูสีกันจะมีของ AXA (คุ้มครองสัมภาระและทรัพย์สินในกระเป๋าเดินทาง 50000 บาท รวมโน้ตบุ๊คด้วย) กะ Cigna (30000 บาท ไม่รวมโน้ตบุ๊ค) จากประสบการณ์ความคุ้มครองอันนี้สำคัญค่ะ ในกรณีกระเป๋าเดินทางเสียหาย (มือจับหัก กระเป๋าแตก กระเป๋าฉีกขาด ฯลฯ) ส่วนใหญ่สายการบินรับผิดชอบจำกัดมากค่ะและส่วนใหญ่จะให้ซ่อมเสียเวลานาน ส่วนตัวเคยเคลมสัมภาระเสียหายจากการเดินทางคือรถเข็นเด็ก มือจับหลุดหายไประหว่างการเดินทางจาก BKK – London สายการบิน Etihad ไม่คุ้มครอง เค้าบอกว่าอะไรก็ตามที่เป็นชิ้นส่วนหลุดออกมาได้ สายการบินไม่คุ้มครองค่ะ แต่โชคดีที่มีประกันการเดินทางที่บริษัทซื้อให้แบบรายปีเค้าคุ้มครอง ให้ซื้อมือจับใหม่แล้วมาเคลมได้เลย แต่รายละเอียดปลีกย่อยว่ารวมอะไรไม่รวมอะไรต้องอ่านดีๆ นะคะ ประกันจะเงื่อนไขเยอะค่ะ ไม่ชัวร์ก็โทรถามเลย เดี๋ยวนี้ call center บริษัทประกันส่วนใหญ่บริการดี พูดรู้เรื่องค่ะ
<3> ความคุ้มครองเกี่ยวกับชดเชยเที่ยวบินจะมี AXA กับ MSIG ที่ครบกว่าเพื่อน แต่เอาจริงๆ ความคุ้มครองแต่ละที่ไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ค่ะ ได้กันเป็นหลักพันต่อทุก ๆ 8 ชั่วโมง ดูภาพรวม MSIG easy 3 คุ้มครองเป็นจำนวนเงินสูงกว่า
หมายเหตุ ของ Cigna ตัวหนังสือสีแดงเพราะว่าสามารถเลือกได้ทุกอย่างตามที่ต้องการ ถ้าเลือกไม่เอาบางความคุ้มครอง เบี้ยก็จะลดลงไปเรื่อย ๆ ใครไม่เคยซื้อประกันอาจจะงงๆ เพราะต้องเลือก แต่ถ้าใครใช้ประกันบ่อยๆ มีความเชี่ยวชาญ และอยากเลือกเอง customize เองแบบละเอียดก็จะเหมาะนะคะ
<4> ความคุ้มครองอื่น ๆ อันนี้น่าสนใจนะคะ Bupa ณ จุดนี้เลิกดู เพราะไม่มีอะไรเล้ย (คือเป็นตัวเลือกสำหรับตอนลูกเล็กก็พอค่ะ)
จะเห็นว่า AXA จะมีความคุ้มครองอื่น ๆ ค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะที่ดูมีประโยชน์คือค่ารักษาพยาบาลที่รักษาต่อเนื่อง (อยู่ในหัวข้อ ผลประโยชน์การขยายระยะเวลาอัตโนมัติ) คือถ้าเราป่วยมาจากเมืองนอกแล้วมาหาหมอที่เมืองไทย จะยังคุ้มครองอยู่ สามารถหาหมอ เคลมค่ารักษาพยาบาลได้ (อันนี้ไม่เคยมีประสบการณ์ตรงค่ะ แต่เคยมีแฟนเพจของ Little Panda’s Travel Diary facebook เล่าประสบการณ์ให้ฟัง) คล้าย ๆ กัน MSIG ก็มีเหมือนกันนะคะ ที่แตกต่างไปจากแบรนด์อื่น คือ AIG มีแพลนชดเชยค่าโทรศัพท์กรณีฉุกเฉิน แต่มูลค่าที่ให้ก็น้อยนิดค่ะ และมี MSIG ที่ให้ค่า excess สำหรับรถเช่า (อาจจะมีประโยชน์เวลาเที่ยวยุโรป ที่พอจะเช่ารถขับได้ แต่ประเทศส่วนใหญ่ที่เราไปก็ไม่ค่อยได้เช่ารถขับเนอะ) และมีประกันกรณีเครื่องโดนจี้กลางอากาศด้วย