สวัสดีค่ะ วันนี้หม่ามี๊แพนด้าอยากจะมาแชร์ข้อมูลเรื่องการเลือกซื้อจักรยานสำหรับเด็กเล็กค่ะ ต้องขอออกตัวก่อนนะคะว่าไม่ได้มีความรู้เรื่องจักรยานมาก่อน คือส่วนตัวทั้งตัวเองและพ่อแพนด้าไม่ได้ขี่จักรยานค่ะ แบบว่าสรีระไม่ค่อยจะเอื้ออำนวย คือ อ้วนไปทั้งคู่เลย XD เลยเป็นปมนิดนึงว่าอยากให้ลูก sporty จะได้สุขภาพแข็งแรงกว่าพ่อแม่นะคะลูก J คุณลูกก็ลูกคนแรกค่ะ คือจะซื้ออะไรทีก็ต้องหาข้อมูลนิดนึงตามประสาพ่อแม่มือใหม่ค่ะ ดังนั้นข้อมูลที่มาแชร์จะเป็นในมุมมองของมือใหม่ที่พยายามจะหาข้อมูล อาจจะไม่ได้รู้ลึกมาก ถ้าหากข้อมูลขาดตกบกพร่อง หรือข้อมูลผิดพลาด ต้องขออภัยไว้ล่วงหน้าจ้า รบกวนเพื่อน ๆ ชี้แนะด้วยนะฮะ แล้วรู้สึกว่ามันน่าสนใจ เลยมาแบ่งปัน สำหรับบ้านไหนที่เพิ่งเริ่มสนใจช่วงแรก ๆ และหาข้อมูลเพื่อการตัดสินใจเหมือนกันค่ะ
= หากิจกรรมให้ลูกได้ปล่อยพลัง =
ก่อนจะมาสนใจเรื่องจักรยาน ตอนแรกจุดเริ่มต้นคืออยากจะหากิจกรรมที่ได้พัฒนาทางร่างกายให้ลูกค่ะ เพราะอย่างที่คุณพ่อคุณแม่ทุกคนทราบคือการได้ทำกิจกรรม ออกกำลังกาย มีผลต่อการพัฒนาของเด็กเล็ก ๆ ทั้งได้พัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็กมัดใหญ่ ได้ความสนุกสนาน ได้ความคล่องตัว ฯลฯ แล้วยิ่งโตลูกยิ่งนอนยากค่ะ เพื่อนๆ ที่มีลูกวัยเดียวกันบอกว่ายิ่งต้องหากิจกรรมทำค่ะ ให้เค้าได้ปล่อยพลัง พอเหนื่อย กลางคืนจะนอนง่ายขึ้น อีแม่นี่ตาลุกวาวค่ะ ทุกวันนี้กล่อมลูกนอนยากมาก ๆ ก็เลยเริ่มลองมองหากิจกรรมต่าง ๆ เคยไปลองมาทั้งพวก Little Gym ลูกก็ไม่ชอบ ว่ายน้ำลูกก็ไม่ค่อยจะอิน พวก class อื่น ๆ ก็จะยากไป (ลูกเพิ่งสองขวบกว่า) แล้วก็แอบไม่ค่อยสะดวกกับการต้องไปรับไปส่งไกลบ้านค่ะ แล้วมาเริ่มเห็นลูกๆ เพื่อนเล่นขี่จักรยานกันมากขึ้น ถ้าเด็กโต 8-9 ขวบ เค้าก็พากันไปขี่จักรยานกันได้ทั้งครอบครัวตามสวนรถไฟ สวนหลวงร.9 ฯลฯ แต่ถ้าเป็นเด็กเล็กเราไม่แน่ใจว่าเค้าหัดขี่จักรยานกันตอนอายุเท่าไหร่ ที่บ้านก็มีจักรยานสามล้ออยู่นะคะ แบบล้อพลาสติกที่มันใช้ขี่ในบ้านได้อย่างเดียว พอดีว่าไปเห็นลูกเพื่อนที่ตัวเล็กๆ อายุประมาณใกล้ๆ กะลูกสาวคือสองขวบ ขี่จักรยานสองล้อได้ แล้วเค้าขี่คล่องมากเลย เลยสนใจว่าฝึกลูกขี่จักรยานยังไง แอบไปถามๆ มา เลยรู้ว่ามันมีจักรยานสำหรับเด็ก ที่เค้าเรียกว่า balance bike คือจักรยานสองล้อ ที่ไม่มีที่ปั่นน่ะค่ะ คือใช้เท้าไถ ๆ เอา มันฮิตกันมาจากเมืองนอก คือได้รับความนิยมเพราะมันเป็นวิธีการฝึกลูกขี่จักรยานแบบใหม่ค่ะ
= Balance bike vs จักรยานทั่วไป =
ภาพจาก http://newlifenewworld.com/joovy-kids-bike-helmet/
หลักการคือว่าเด็กเล็ก ตั้งแต่ขวบกว่าขึ้นไป เวลาหัดขี่จักรยานจะหัดยาก เนื่องจากเค้าจะโฟกัสที่การทรงตัวเพราะโดยธรรมชาติจะกลัวล้ม ถ้าต้องทรงตัวไปด้วยและพยายามปั่นจักรยานไปด้วยก็จะหัดเป็นช้า คนที่เค้าคิดค้น balance bike เลยใช้หลักการนี้ คือเอาไอ้ขาถีบออกไปเลย เด็กจะได้หัดทรงตัวและไถไปก่อนตามธรรมชาติ แต่ก่อนแบบที่สมัยเราขี่จักรยานตอนเด็ก ๆ คือจักรยานธรรมดาที่มีขาถีบสามล้อ หรือแบบที่มีล้อพ่วง สองล้อ ช่วยให้ขี่ง่ายเพราะเด็กไม่ต้องทรงตัวเอง นอกจากนั้นสำหรับเด็กเล็ก รถขาถีบจะมีความอันตรายมากกว่าเพราะมีน้ำหนักมาก มีขาถีบและตัวปั่น บางรุ่นมีโซ่ เวลาล้มจะกระแทกแรงกว่าและมีโอกาสบาดเจ็บมากกว่า การเบรกจักรยานขาถีบมักจะมีเบรกมือ ซึ่งเบรกยากไปสำหรับกล้ามเนื้อมือเด็กเล็ก ถ้าเบรกแรงไปอาจะเสียการทรงตัวแล้วพลิกคว่ำบาดเจ็บได้ ในแง่ความเหมาะสมต่อพัฒนาการโดยเฉพาะเด็กเล็ก 1-3 ขวบยังเด็กไปที่จะปั่นจักรยานด้วยความที่กล้ามเนื้อขายังไม่แข็งแรงพอ และการมีล้อพ่วงทำให้เด็กไม่ได้เรียนรู้การทรงตัว พอจะหัดจักรยานสองล้อก็ต้องมาหัดกันใหม่
การฝึกขี่จักรยานแบบไม่มีขาถีบจะเป็นการโฟกัสที่การฝึกทรงตัวโดยการใช้ขาไถแทน พอเค้าคล่องแล้ว step ต่อไปเวลาฝึกขี่จักรยานสองล้อจะขี่เป็นเร็ว ในกระทู้พันทิพบางคนก็บอกว่าใช้วิธีเอาจักรยานเด็กสองล้อที่เป็นล้อถีบธรรมดา มาถอดเอาตัวที่วางเท้าออก ก็คือคล้าย ๆ กับ balance bike เนี่ยแหละ แต่ทำเอง แล้วถ้าลูกขี่เก่งแล้วค่อยเอาที่วางเท้ามาใส่ใหม่ คือบางบ้านถ้าลูกขี่เป็นเร็ว วิธีนี้ก็จะประหยัด เพราะ balance bike ราคาสูงกว่าจักรยานเด็กธรรมดาค่ะ แต่เท่าที่เห็นคอมเม้นจากบ้านที่ใช้ balance bike มันจะมีข้อดีในเรื่องอื่น ๆ ด้วย เช่นน้ำหนักที่เหมาะสม และดีไซน์ที่ออกแบบมาแบบไม่มีที่วางเท้าเลย แทนที่จะมาเอาออกเอง ซึ่งอาจจะมีชิ้นส่วนจักรยานที่ยื่นออกมาโดนขาน้องทำให้เป็นแผลหรือบาดเจ็บเวลาเล่นได้ง่าย ใครยังไม่คุ้นเคยกับ balance bike ลองดูวีดีโอนี้นะคะ เด็กตัวเล็ก ๆ เล่นกันเก่งเว่อ
https://www.youtube.com/watch?v=3NZ7h6bSVSI
= Balance bike ตอบโจทย์ของลูกเรารึเปล่า =
อันนี้สรุปข้อดีของ balance bike จากการคุยกับเพื่อน ๆ ที่ซื้อให้ลูกขี่ และจากรีวิวตาม blog และกระทู้พันทิพต่าง ๆ นะคะ
- ช่วยเรื่องการทรงตัวของเด็กเล็ก (เริ่มเล่นได้ที่ขวบครึ่ง) ช่วยให้ปั่นจักรยานสองล้อเป็นได้เร็ว คือบางคนปั่นสองล้อเป็นตั้งแต่ 3-4 ขวบ (นี่มันเร็วกว่ารุ่นเราๆเยอะเลย จำได้ว่าตัวเองขี่จักรยานเป็นตอนจะวัยรุ่นแล้วอ่ะ)
- วิธีการทรงตัวบนจักรยานขาไถ ช่วยในการทำงานประสานกันระหว่างกล้ามเนื้อมัดใหญ่และมัดเล็ก (มีการวิ่งไถ ขึ้นลงเนิน) ฝึกความว่องไว ฝึกการบังคับทิศทางเพื่อหลบสิ่งกีดขวาง
- ได้มีกิจกรรมที่ทำนอกบ้าน ได้พบปะเพื่อน ๆ รุ่นเดียวกัน พัฒนาการเร็วขึ้นบางทีมาจากการเลียนแบบจากการเห็นเด็ก ๆ คนอื่นเล่น
- มีกิจกรรมการแข่งขัน ฝึกวินัย มีความกล้าแสดงออก ฝึกความมั่นใจ ฝึกการเข้าสังคม ได้รู้จักแพ้ชนะ เสริมสร้าง EQ ให้คุณลูกตั้งแต่ยังเล็ก ๆ
- เป็นกิจกรรมนอกบ้านที่สะดวก (ต่างจากการไปเรียนคลาสต่างๆ ที่ต้องเดินทาง และต้องวางแผนเรื่องเวลาเรียน) สามารถเล่นบริเวณบ้านได้ หรือตามสวนสาธารณะต่างๆ ใกล้บ้านตามสะดวก
- ข้อสุดท้าย อันนี้ชอบมากเป็นการส่วนตัว คือ ได้ใช้พลัง ออกแรง ออกเหงื่อ ตกกลางคืนจะได้กล่อมนอนง่าย ๆ 😉
ส่วนคอมเม้นด้านอื่นๆ ก็จะมีเรื่องราคาที่ค่อนข้างสูง และบางคนมองว่าจะคุ้มมั้ยเพราะไม่กี่ขวบก็จะเริ่มขี่จักรยานสองล้อจริงๆ ได้แล้ว เรื่องราคากับความคุ้มค่าจริงๆ แล้วแต่ความคิดของแต่ละคนเลยค่ะ คือถ้ามองเปรียบเทียบกับของเล่นทั่วไป ราคา 1000-6000 บาทก็ถือเป็นของเล่นที่ราคาสูง แต่ถ้ามองเทียบเป็นกิจกรรมหรือการเรียนรู้ทักษะ เทียบกับคลาสเรียนเต้น เรียนว่ายน้ำ เรียนยิม ที่ช่วยเรื่องทักษะทางร่างกายเหมือนกัน ไปเรียนคลาสพวกนี้แพงกว่าเยอะนะคะ ทีนี้คุ้มมั้ยขึ้นอยู่กับว่าซื้อมาแล้วลูกชอบเล่นมั้ยมากกว่าค่ะ
= ทำไม balance bike ถึงราคาสูง =
แม่ๆ อาจจะสงสัย ว่าทำไมแพงจัง มันดียังไง มันพิเศษกว่าจักรยานธรรมดายังไง ข้อมูลละเอียดๆ เวบไทยไม่ค่อยมี ไปเจอเวบของอเมริกาค่ะ เวบนี้ละเอียดมากๆ เอาข้อมูลที่น่าสนใจมาแปลให้อ่านกันนะคะ ดีมาก ๆ สำหรับแม่อย่างเราซึ่งเพิ่งจะทำความรู้จักกับ balance bike จริงๆที่เมืองนอกเค้าฮิตกันมาก่อนซักพักแล้วค่ะ ข้อมูลเลยเยอะกว่า มีการเปรียบเทียบรีวิวกันจริงจังเลย มีการอธิบายว่ามันมีส่วนประกอบอะไร วัสดุอะไร ชิ้นส่วนไหนสำคัญยังไง
อันนี้สรุปอันที่คิดว่าน่าสนใจ แต่ใครอยากอ่านเต็ม ๆ ละเอียดๆ แปลไว้ให้อ่านที่ link นี้ค่ะ ** balance bike และ ส่วนประกอบสำคัญ 10 อย่างที่ควรดูเวลาเลือกซี้อ**
เค้าบอกว่าซื้อ balance bike สิ่งที่ต้องเลือกหลักๆ มี 10 อย่างค่ะ (เยอะจังจ้า .. แม่อ่านไปก็มึนไป ศัพท์เฉพาะก็เยอะ แต่เพื่อลูก มี๊ทำได้จ้า) แต่เลือกมาแต่อันสำคัญ ๆ ใครอยากอ่านเต็ม ๆ ดูลิงค์ข้างบน (ขอบคุณ twowheelingtots.com ข้อมูลแน่น และอ่านง่าย พร้อมรูปประกอบมากมาย ขอยืมมาใช้อธิบายในนี้ให้เพื่อนๆ อ่านด้วยค่ะ)
- ขนาด
สำคัญมาก ๆ ต้องเลือกให้เหมาะกะอายุของคุณลูกค่ะ บางทีจะเห็นว่าหลาย ๆ ยี่ห้อเค้าโฆษณาว่า one size fits all คือขนาดเดียวสำหรับทุกคน แหม แต่จักรยานคันเดียวจะใช้ตั้งแต่ขวบครึ่ง (อายุที่แนะนำให้เริ่มขี่ balance bike ได้) เป็นต้นไป แต่จะใช้ได้นานแค่ไหนสิ่งที่มีผลต่อความเหมาะสมของเด็กแต่ละช่วงอายุ คือ “ขนาดล้อ” และ “ความสูงของเบาะนั่ง”
ความสูงของเบาะ – อันนี้สำคัญที่สุดว่ามันจะพอดีกับตัวเด็กมั้ยค่ะ ถ้าเบาะไม่พอดีจะนั่งไม่สบายและเด็กจะไม่ชอบเล่นเพราะขี่ยาก ความสูงที่เหมาะที่สุดคือเท้าเด็กต้องแตะพื้นและไถได้ในท่าที่ก้นนั่งสบายบนเบาะ โดยทั่วไปขนาดที่เหมาะคือความสูงของเบาะต้องน้อยกว่าความสูงจากเท้าวัดถึงต้นขาด้านใน (แบบไม่ใส่รองเท้านะคะ) เค้าเรียกว่า (inseam) ดูวิธีการวัดจากในรูปเลยค่ะ โดยเบาะต้องเตี้ยกว่า inseam 1 – 1.5 นิ้ว
ตามรูปนะคะ ความสูงเบาะที่นั่งที่เหมาะสมคือเวลานั่งแล้วขาต้องงอนิดนึงเป็นการ balance น้ำหนัก
Balance bike จะปรับความสูงเบาะได้ค่ะ แนะนำให้เลือกรุ่นที่ปรับเบาะสูงสุดแล้วยังสูงกว่า inseam (วัดจากพื้นถึงต้นขาด้านใน) ประมาณ 2 นิ้ว เผื่อโตค่ะ ส่วนใหญ่ balance bike จะเหมาะสำหรับเด็กอายุขวบครึ่งถึง 3-4 ขวบ หรือประมาณ ก่อนจะเริ่มขี่จักรยานแบบธรรมดา (ไปถามที่ร้านจักรยานมาเค้าบอกว่าถ้าเทียบส่วนสูงเด็กจะประมาณ 80-125cm ค่ะ)
- น้ำหนัก
โดยทั่วไปน้ำหนักจักรยานควรจะไม่เกิน 30% ของน้ำหนักลูกค่ะ เช่น ลูกหนัก 14 กก. จักรยานควรหนักไม่เกิน 4 กก. เพราะน้ำหนักมากจะทำให้เด็กเล็ก 2-3 ขวบบังคับจักรยานได้ยาก คือยิ่งเบายิ่งดี ยิ่งบังคับง่าย จักรยานหนัก ๆ จะเหมาะกับเด็กโตหน่อย ซัก 3.5 ขวบขึ้นไปที่ขี่เก่งแล้ว และน้ำหนักตัวของตัวเองเยอะ สมดุลกับน้ำหนักจักรยาน ไม่ควรใส่อุปกรณ์เสริมเพิ่มเติมบนจักรยานเพราะจะเพิ่มน้ำหนักและทำให้เด็กๆ ขี่ยาก โดยเฉพาะเด็กที่เพิ่งหัดขี่ อาจจะยังไม่คล่อง และจะทำให้ไม่สนุกกับการขี่ค่ะ ยืมภาพมาจากในเวบเค้าค่ะ มีเปรียบเทียบยี่ห้อดัง ๆ เรื่องน้ำหนักกับขนาดตัวเด็ก ในภาพเป็นเด็ก 4 ขวบ หนัก 35ปอนด์ (ประมาณ 16 กก.) อันซ้ายยี่ห้อ Cruzee สุดหนักแค่ 12% ของนน.ตัวเท่านั้นค่ะ
- Geometry
Geometry คือความ balance ของสัดส่วนของร่างกายกับตัวจักรยานนะคะ เพราะเวลาขี่ balance bike มันคือการกึ่งๆ วิ่ง กึ่งๆ ไถ และเด็กจะโน้มโตไปด้านหน้าเพื่อจะวิ่งไถได้ถนัด ซึ่งจะโน้มตัวไถได้ถนัดเนี่ย ดีไซน์จักรยานต้องมีพื้นที่ให้เหมาะกับร่างกายของเด็ก เค้าเทียบให้ดูสองยี่ห้อที่ดีไซน์ดี และไม่ดี คือยี่ห้อที่ดีคือมีที่ว่างเยอะระหว่างมือจับกับที่นั่ง และมีช่องว่างระหว่างล้อหลังและเบาะน้อย ๆ ทำให้โน้มตัวบาลานซ์ร่างกาย และขยับขาวิ่งได้คล่องตัวกว่า ตรงกันข้ามแบบที่ไม่แนะนำคือมีที่ว่างระหว่างเบาะและที่จับน้อย (โน้มตัวยาก) และช่องว่างระหว่างเบาะกับล้อหลังเยอะ คือเบาะจะสูงและไม่ค่อย balance
- ประเภทยาง
ขอออกตัวก่อนค่ะว่ายางของรถตัวเองหม่ามี๊แพนด้ายังงง ๆ อันนี้อ่านเอาตามที่เข้าใจและถาม ๆ คนอื่นมาด้วยนะคะ ประเภทของยางเนี่ย จะช่วยเรื่องความนุ่มและลื่นไหลของการขี่0
EVA foam เทียบกับแบบ air tyre คือล้อยางแบบจักรยานผู้ใหญ่ จะน้ำหนักเบากว่า และไม่แบน หน้าตาคล้ายๆ แต่สู้เรื่องความนุ่มและการเกาะตัวกับพื้นผิวไม่ได้ สำหรับน้อง ๆ ที่ขี่เก่งแล้วจะขี่ในที่ผาดโผนมากขึ้น ลงเนิน หรือกระโดด หรือพื้นขรุขระ ตัวล้อจะไม่ได้ช่วยรับแรงกระแทก ส่วนการเกาะตัวจะดีกับพื้นผิวทั่วๆ ไป เช่นถนน แต่ถ้าเป็นขรุขระ หรือเรียบลื่นมากๆแบบพื้นยิมจะเกาะตัวได้ไม่ดี
- ที่วางขา (footrest)
ยี่ห้อส่วนใหญ่ของ balance bike ไม่มีที่วางขาเพราะโดยธรรมชาติเด็ก ๆ จะชินกับการยกขาขึ้นเองเวลาลงเนิน (เวบไซต์นี้เค้าบอกว่า เค้ามีประสบการณ์ 7 ปีในการทดสอบจักรยานรุ่นต่างๆ กับเด็ก เด็กไม่เคยถามว่าจะต้องเอาเท้าวางที่ไหน คือเค้าหดขาทรงตัวเองตามธรรมชาติอยู่แล้ว แต่คำถามนี้พ่อแม่ถามเยอะ) ดังนั้นจะไม่มีที่วางขาก็ไม่ได้เป็นปัจจัยสำคัญอะไรที่มีผลต่อการขี่
แต่สำหรับรุ่นจักรยานที่มี ก็ควรลือกให้ที่วางขาไม่ใหญ่เกินจนเป็นอุปสรรคต่อการไถ คือบางยี่ห้อที่วางขาใหญ่เกิน แบบว่าให้เด็กวางเท้าได้สบายขึ้น แต่มันจะยื่นออกมาด้านข้าง ทำให้ไม่สะดวกต่อการไถ คือเด็กต้องถ่างขากว้างขึ้น ในภาพคือ top view มองจากด้านบนเบาะลงไป แบบที่ไม่ดีคือเราเห็นที่วางขายื่นออกมาเยอะ
- วัสดุตัวจักรยาน (frame materials)
ส่วนใหญ่ทำจากโลหะ แบ่งเป็นเหล็ก และอลูมิเนียม ซึ่งมีผลต่อน้ำหนัก อลูมิเนียมอัลลอย มีน้ำหนักเบา แข็งแรง ไม่ขึ้นสนิม และใช้ในยี่ห้อที่คุณภาพดี ส่วนเหล็กมักจะใช้ในรุ่นไม่แพง ทำให้หนัก และสนิมขึ้นได้ ส่วนมากถ้าเค้าไม่โฆษณาว่าทำจากอลูมิเนียม มักจะใช้วัสดุเป็นเหล็กค่ะ
*เพิ่มเติมข้อมูลที่ได้จากร้านจักรยานที่ไป survey ก่อนซื้อค่ะ วัสดุจักรยานที่เราเห็นนิยมกันในบ้านเราจะเป็นโลหะ น่าจะเป็นเรื่องความสวยงามแข็งแรงทนทาน และปรับตั้งขนาดตามความสูงของเด็กได้ ทำให้เด็กเล่นได้ง่าย และน้ำหนักที่พอดีไม่หนักไปก็จะทำให้เด็กสามารถเล่นเอง ยกเอง เข็นรถเอง เป็นการฝึกช่วยเหลือตัวเอง ช่วยแบ่งเบาคุณพ่อคุณแม่ด้วย
= ทำความรู้จักกับ Balance bike =
พอเริ่มสนใจก็เริ่มเช็คราคาค่ะ ราคาก็ไม่เบาอยู่นะคะ คันนึงเห็นเพื่อนๆ ซื้อกันก็มีหลายพันอยู่ค่ะ ตั้งแต่พันกว่าบาทไปจนแถว ๆ 5-6 พันบาทก็มี พยายามหาข้อมูลเวบไทยข้อมูลไม่ค่อยเยอะค่ะ ดูไปดูมา มาถูกใจยี่ห้อนี้ค่ะ
https://www.facebook.com/CruzeeKidz/
ลองส่องกิจกรรมใน facebook fan page เพจเค้าดูแอคทีฟดี คือเค้าจะมีจัดกิจกรรมให้น้องๆมาแข่งกันด้วย เค้าจัดกิจกรรมได้ดูน่าสนใจมาก ๆ ค่ะ มี theme น่ารัก ๆ ให้น้องๆ มาร่วมสนุก มีการจัดลู่แข่งเป็นเรื่องเป็นราว มีสิ่งกีดขวาง มีพื้นที่ต่างระดับ ให้น้อง ๆ ได้ลองฝึกใช้ฝีมือ คือดูเป็นงานอดิเรกที่เล่นกันเองที่บ้านด้วย และเล่นนอกบ้านเป็นกิจกรรมได้ social กับเด็ก ๆ คนอื่นด้วยค่ะ
เรามองว่าการเลือกยี่ห้อที่น่าเชื่อถือสำหรับ balance bike สำคัญ เพราะทุกส่วนประกอบของตัวจักรยานมีผลต่อความง่ายของการขี่ (ถ้าขี่ง่ายก็จะอยากขี่เพราะสนุก) และเรื่องความปลอดภัย เกิดหกล้มอะไรขึ้นมาเพราะส่วนใหญ่จะไปขี่เล่นกลางแจ้ง
จริงๆ แม่ๆ ที่อยากจะซื้อ แนะนำให้ไปลองดูของจริงนะคะ และควรให้น้องลองขี่ว่าชอบมั้ย เราซื้อรถเรายัง test drive เลยเนอะ อันนี้ก็ต้องตามใจคนขับ เอ้ย ตามใจคนขี่ตัวน้อยเหมือนกันนะ ให้เค้าได้มีส่วนในการตัดสินใจเลือก เค้าจะได้อยากขี่
เจออีกเวบนึงเค้ารีวิวเปรียบเทียบยี่ห้อดังๆไว้ มี Cruzee ที่เราอยากได้ด้วย เวิร์คมาก ละเอียดและพร้อมรูปประกอบชัดเจน ขอยืมมาแชร์ให้เพื่อน ๆ อ่านกันค่ะ จากเวบนี้ http://www.twowheelingtots.com/cruzee-balance-bike-review
ขนาดและ geometry ใกล้เคียงกันมากค่ะ แต่ Cruzee ดูตัวโครงบางกว่า
น้ำหนัก อันนี้ต่างเยอะค่ะ Cruzee 1.9 กก. เบากว่าเยอะ เพราะเป็นอลูมิเนียม ส่วนยี่ห้ออื่น ๆ ถ้าไม่ได้บอกว่าเป็นอลูมิเนียมมักจะทำจากเหล็ก จะหนัก 3 กก. ขึ้นไป จนถึง 5 กก.ได้ น้ำหนักอย่างที่บอกไปด้านบนว่ามีผลต่อความง่ายในการขี่และไถ โดยเฉพาะเด็กเล็กเพิ่งหัดขี่ นอกจากนี้จักรยานน้ำหนักเบาจะช่วยลดการบาดเจ็บเวลาล้ม และน้ำหนักเบาพกไปไหนมาไหนง่าย
เบาะนั่ง ของ Cruzee ใหญ่กว่าและมีหุ้มจะนิ่มกว่าเล็กน้อย ขนาดเบาะนั่งมีผลต่อความสบาย ซึ่งถ้าเด็กเล็กมาก เบาะเล็กอาจจะเหมาะกับขนาดตัวมากกว่า แต่ถ้าเด็กโตขึ้น เบาะที่ใหญ่กว่าช่วยให้นั่งสบายกว่าค่ะ
ความง่ายในการปรับขนาด ของ Cruzee ปรับมือได้ ไม่ต้องใช้เครื่องมือ
น็อตตรงกลางล้อของควรเลือกแบบที่ไม่ยื่นออกมา อย่าง Cruzee จะไม่ยื่นเป็นแบนๆ ปลอดภัยกว่าเวลาล้มจะไม่มาทิ่มโดนขาค่ะ
ยางล้อจะมั้งแบบยางลม (เกาะถนนดี รับแรงกระแทกดี แต่ต้องคอยเติมลมยาง และสามารถรั่วซึมหรือแตกได้) อีกแบบนึงคือ EVA โฟม ที่ Cruzee ใช้ จะเป็นยางตัน ไม่ต้องเติมลม จึงไม่มีรั่วซึม ไม่ต้องห่วงเรื่องการดูแล เหมาะกับแม่บ้านที่แค่เลี้ยงลูกก็ยุ่งพอแล้ว 555 ของ Cruzee หน้ากว้างยางกว้างกว่าเยอะอยู่เหมือนกันค่ะ (ตอนไปดูที่ร้าน ถามคนขาย คนขายแนะนำว่าหน้ากว้างยางช่วยเรื่องการเกาะถนนดี เค้าว่ายาง Cruzee มีความยืดหยุ่นคล้ายยางมากกว่า ทำให้ทนและสึกช้ากว่ายาง EVA ทั่ว ๆ ไป)
หมายเหตุ รายละเอียดจริงๆ ต้องดูของจริงที่ร้านนะคะ เพราะเค้าอาจจะมีการปรับปรุงเหรือเปลี่ยนรุ่น ข้อมูลนี้อาจจะไม่ได้อัพเดทที่สุดค่ะ
ไปเจอเวบไทยที่โชว์เปรียบเทียบสองยี่ห้อนี้เป็นวีดีโอให้ดูด้วยค่ะ จะได้เห็นของจริงเป็นการประกอบการตัดสินใจสำหรับใครที่ยังไม่มีเวลาไปดูที่ร้านนะคะ
http://www.bikebikeride.com/blogs/news/115920325-review-and-compare-strider-vs-cruzee
https://www.youtube.com/watch?v=5JkYTK9a0jc
นอกจากดูเรื่องคุณสมบัติแล้ว อีกอย่างที่ต้องพิจารณาคือเรื่องกิจกรรมค่ะ จักรยาน balance bike จะมีจัดงานแข่งจักรยานอยู่เรื่อย ๆ ตามห้างและ community mall อันนี้แนะนำว่าถ้าอยากจะซื้อจริงๆ ควรไปลองของจริงค่ะ ลองเข้าไปดูในเฟซบุคของแต่ละยี่ห้อ เค้าจะมีข้อมูลตัวแทนจำหน่ายอยู่ หรือลองไปดูตามงานแข่ง จะได้เห็นของเริงละบรรยากาศของกิจกรรม
อันนี้ไปลองขี่มาทีนึงค่ะ พอดีวันนั้นเค้าเปิดให้ซ้อมก่อนวันแข่งของ Cruzee มีจักรยานให้เช่าขี่ด้วยค่ะ
ใครสนใจลองตามงานกิจกรรมที่เค้าจัดได้ในเฟซบุคนะคะ ถ้ามีเวลาควรไปลองขี่ดู ได้ไปจับของจริงดูวัสดุ ดูดีไซน์ ก่อนตัดสินใจ
ปรึกษาเพื่อนที่ซื้อ balance bike ให้ลูก ส่วนใหญ่จะตามที่ลูกชอบ คือถ้าขี่ยี่ห้อไหนแล้วชอบก็อันนั้นกันเลย ไปดูของจริงที่ร้าน จะได้ดูของจริงเปรียบเทียบสินค้า พร้อมราคา
สุดท้ายหลังจากไปดูของจริงที่กิจกรรม และดูเทียบกับยี่ห้ออื่นที่ร้าน เลือก Cruzee ให้สาวน้อยไปนะคะ เหตุผลหลัก ๆ เลย สองเรื่อง อย่างแรกเหตุผลส่วนตัวนิดนึงค่ะคือสี metallic ที่แม่ชอบเอง อันนี้ลูกไม่ได้เลือก 555 จริงๆมีสีให้เลือกเยอะมาก แต่เราเลือกสีกลาง ๆ สีเขียว เพราะคิดการณ์ไกลว่าจะเก็บไว้ให้ลูกคนที่ 2 ซึ่งอยากให้เป็นลูกชาย (แต่ลูกก็ยังไม่มาซะที 😉 ) และอีกเหตุผลนึงคือเรื่องน้ำหนัก ที่เบาและลูกสาวตัวบางของเราขี่ง่าย และเบามือพ่อแม่เพราะเราจะเน้นเอาไปขี่นอกบ้าน ที่บ้านไม่มีสนามกว้าง ๆ ให้ลูกขี่ค่ะ นี่ได้มาปุ๊บก็ไปประเดิมด้วยทริปเขาใหญ่เลยค่ะ เห่อมากค่ะ ขี่ทุกที่ รูปไม่ค่อยจะได้ถ่ายเพราะมัวแต่วิ่งไล่จับกันค่ะ
นี่แน่ะ ยกจักรยานมือเดียวโชว์ความเบา :p :p
ลากจักรยานมายืนชมวิว มี๊ห้ามขี่ตรงนี้ค่า เดี๋ยวตกน้ำ 😉
หลังจากทริปเขาใหญ่ก็ติดใจค่ะ พอจัดกระเป๋าไปเชียงใหม่ ยัยคุณลูกบอกเอาจักรยานไปด้วยได้มั้ย เนื่องจากนั่งเครื่องไปจึงต้องแพ็คใส่กระเป๋า ไม่สามารถเอาใส่รถไปทั้งคันได้เหมือนตอนทริปเขาใหญ่ อีแม่นี่ก็บ้าจี้ ลองเอามาแพ็คลงกระเป๋าไปด้วย ตัวจักรยานมันน้ำหนักไม่ถึงสองกก. คิดว่าน่าจะเอาอยู่ค่ะ แต่มี๊ไม่เอาหมวกไปนะลูก มันเปลืองที่ จักรยานทั้งคันจะกว้างเกินกระเป๋าเดินทางใบใหญ่สุด (28 นิ้ว) ไปนิดนึงค่ะ ต้องถอดชิ้นส่วนมือจับออกมากับล้อถึงจะใส่กระเป๋าได้ค่ะ ยี่ห้อนี้ดีค่ะ ไม่ต้องใช้เครื่องมือ สามารถถอดประกอบด้วยมือเปล่าได้ง่ายๆ สะดวกมากถ้าชอบเที่ยวแล้วอยากพกไปด้วยค่ะ
ปรากฏว่าทริปเชียงใหม่ของเรา 3 วันแน่นมาก ขึ้นแต่ดอย ไม่มีเวลาขี่จักรยานเลยค่ะ ได้มีโอกาสขี่ซักนี้ดนึงก่อนมี๊แพ็คลงกระเป๋าที่สนามบินเชียงใหม่ค่ะ เดี๋ยวทริปเขาค้อจะลองพกจักรยานไปอีกรอบ ทริป 4 วัน 3 คืน น่าจะมีเวลามากขึ้นค่ะ 🙂 🙂
อย่างนึงที่สังเกตุคือเวลาเล่นคนเดียว ไม่ว่าจะอยู่ที่บ้านหรือนอกสถานที่ ลูกสนุกสนานกับการยกจักรยานมาขี่เอง แล้วก็ยกไปวางเก็บ แต่ว่าจะขี่ได้ไม่นานมาก วันที่ไปลองขี่ที่สนามขี่ได้สิบกว่ารอบค่ะ คิดว่าน่าจะเพราะเห็นเด็กคนอื่นขี่ด้วยเลยสนุกกว่าอยู่บ้านขี่คนเดียว เลยคิดว่าเดี๋ยวจะต้องไปร่วมกิจกรรมที่เค้าจัดให้เด็ก ๆ มาขี่จักรยานด้วยกันค่ะ
คุณพ่อคุณแม่ที่สนใจอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติม ติดตามได้ที่เพจ official เค้าเลยนะคะ