= 5 เหตุผลที่ควรซื้อประกันการเดินทางให้ทั้งคุณลูก และตัวเอง =
- เป็นการควบคุมความเสี่ยง และค่าใช้จ่ายที่อาจจะเกิดจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด เราอาจจะชินกับการไปโรงพยาบาลในเมืองไทยที่ค่าใช้จ่ายในการรักษาไม่แพงมาก ประเทศอื่น ๆ ส่วนใหญ่จะแพงกว่าค่ะ ถ้าเกิดอะไรขึ้น เราจะได้สบายใจว่าไม่ต้องเสียเงินมากมายที่เราไม่ได้วางแผนไว้
- เบี้ยประกันราคาถูกมาก เมื่อเทียบกับความคุ้มครองที่จะได้รับ ส่วนใหญ่เป็น”หลักร้อย”ต่อคน สำหรับความคุ้มครอง”หลักล้าน”เลยค่ะ (ไม่เว่อค่า เดี๋ยวมีตัวเลขให้ดูสำหรับ destination ที่เราคนไทยชอบไปกันบ่อย ๆ ค่ะ) สำหรับทริปสั้นๆ แต่หากอยู่นานหรือเดินทางบ่อยลองหาประกันการเดินทางที่เป็นแบบระยะเวลาเต็มปีดู มักจะคุ้มกว่าค่ะ
- ให้ความอุ่นใจและสบายใจ โดยเฉพาะการพาเด็กเล็กเที่ยว ซึ่งหากเกิดการเจ็บป่วย (โดยเฉพาะกรณีเป็นไข้สูง อันตรายมาก ถ้าแค่น้ำมูกไหลหรือไอ อาจจะกินยาบรรเทาอาการก่อน ถ้าไข้สูงควรพบแพทย์ถ้าสามารถค่ะ) ไม่สบาย หรืออุบัติเหตุ การให้การรักษาที่ดีและทันเวลาสำคัญมาก ๆ
- ประกันการเดินทางครอบคลุมไปถึงความเสี่ยงอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นกับการเดินทาง และสัมภาระด้วย
- การขอวีซ่าบางประเทศ (เช่น เช็งเก้น schengen visa ของยุโรป) ผู้ยื่นขอจะต้องมีประกันการเดินทางและต้องเป็นบริษัทที่ได้รับการรับรองว่าเชื่อถือได้ (อ่านเกี่ยวกับประกันการเดินทางเพื่อทำวีซ่าเช็งเก้น คลิกที่นี่)
= ประกันการเดินทาง กับครอบครัวที่มีเด็กเล็ก =
เคยคิดค่ะ ว่าการซื้อประกันการเดินทางเป็นอะไรที่สิ้นเปลือง เพราะเสียเงินเปล่า ๆ แต่ถ้าไม่เป็นอะไรก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลย แต่ก่อนเวลาไปเที่ยวเอง ก็ไม่เคยคิดถึงประกันการเดินทางหรอกค่ะ คิดว่าถ้าป่วยหรือเป็นอะไรนิด ๆ หน่อย ๆ ก็ทนๆ เอา เดี๋ยวกลับมาหาหมอที่บ้านเราก็ได้ แต่พอมีลูก ยิ่งเดินทางกับลูกเล็ก เราจะมีความกังวลค่ะ ว่าหากเกิดอุบัติเหตุอะไร หรือเกิดลูกป่วยหนัก ๆ เวลาอยู่ต่างประเทศแล้วจะทำยังไง นึกถึงเวลาเราอยู่เมืองไทยใช่มั้ยคะ ที่เรารู้สึกว่าอยู่ใกล้หมอมาก สามารถไปโรงพยาบาลได้ง่าย ๆ แต่เวลาอยู่ต่างประเทศมันมีทั้งเรื่องของความไม่คุ้นเคยกับประเทศที่ไม่ใช่เมืองไทยบ้านเรา มีทั้งเรื่องความกังวลว่าถ้าไปโรงพยาบาลที่ต่างประเทศจะแพงมั้ย ถ้ากลัวแพงไปคลินิคเล็กๆจะมั่นใจได้รึเปล่า ฯลฯ เรื่องความกังวลเรื่องสุขภาพของลูกนี่แหละค่ะ เป็นจุดเริ่มต้นให้เราซื้อประกันการเดินทางให้กับลูกตั้งแต่ครั้งแรกที่พาเค้าไปเมืองนอกตอนอายุ 3 เดือน มันเป็น peace of mind คือหากลูกเจ็บป่วย ไม่สบายอะไร ที่จำเป็นจะต้องเข้าโรงพยาบาล จะได้มีความคุ้มครอง ไม่ต้องกลัวว่าเข้าโรงพยาบาลดีๆ (คือเราอยู่ต่างบ้านต่างเมือง ถ้าเลือกได้อยากจะเข้าที่ดีๆ มากกว่าค่ะจะได้ลดความกังวลหรือความไม่มั่นใจว่าโรงพยาบาลจะโอเคมั้ย) แล้วจะแพงจ่ายไม่ไหว ยิ่งบางทีไปเที่ยวประเทศหนาว ๆ อากาศเปลี่ยน ยิ่งอาจจะมีความเสี่ยงเรื่องการเจ็บป่วยได้ง่ายขึ้น นอกจากการเจ็บป่วยแล้ว อุบัติเหตุยังสามารถเกิดขึ้นได้กับเด็กวัยซน พอเกินขวบนึงไปแล้วมีแต่จะซนขึ้นเรื่อย ๆ ค่ะ
- ประกันการเดินทางคืออะไร
สำหรับคนที่ไม่คุ้นเคยนะคะ ประกันการเดินทางคือการจ่ายเบี้ยระยะสั้น คุ้มครองแค่ช่วงระยะเวลาที่ไปเที่ยวค่ะ เช่นไป 7 วันก็ซื้อแค่ 7 วัน ส่วนใหญ่จะราคาไม่สูงค่ะ เป็น”หลักร้อย” เท่านั้นเอง และส่วนใหญ่ความคุ้มครองจะเป็น”หลักล้าน ๆ” เลยค่ะ เป็นเบี้ยทิ้งนะคะ คือลักษณะคล้าย ๆ เบี้ยประกันอุบัติเหตุรถยนต์ ที่เราต้องจ่ายเงินค่าเบี้ยจำนวนนึง หากไม่ได้เกิดเหตุอะไรก็จะเสียเป็นค่าใช้จ่ายไปเลย แต่หากเกิดเหตุต่างๆ ที่ประกันคุ้มครองก็จะสามารถเคลมได้ตามข้อตกลงของประกันค่ะ อย่างเช่นการคุ้มครองค่ารักษาที่โรงพยาบาล จริงอยู่ว่าโอกาสที่จะป่วยหนัก ๆ จนต้องเข้าโรงพยาบาลที่ต่างประเทศมันไม่เยอะ แต่ลองคิดดูว่าถ้าเกิดลูกเล็กป่วยขึ้นมา หรือเกิดอุบัติเหตุ เราคงอยากจะเลือกการรักษาที่ดีที่สุดให้ลูก โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายจริงมั้ยคะ คือถ้าถามว่าคุ้มมั้ย คำตอบคงเหมือนซื้อประกันรถอะค่ะ คือถ้ารถชนแล้วจะรู้ว่ามีประกันนี่มันคุ้มจริงๆ เหมือนกันค่ะ ประกันท่องเที่ยว ถ้าเกิดเหตุอะไรขึ้นมาก็คุ้มค่ะ กับเบี้ยหลักร้อยกับความคุ้มครองที่คุ้มค่า
- ประกันการเดินทางคุ้มครองอะไรบ้าง
*สุขภาพ คุ้มครองการรักษาพยาบาลกรณีบาดเจ็บ อุบัติเหตุ หรือเจ็บป่วย
คือเราเริ่มสนใจประกันการเดินทางตอนแรกแค่เพราะเรื่องสุขภาพค่ะ แต่จริงๆ ยังมีความคุ้มครองอื่น ๆ อีกมากมาย ที่มีประโยชน์มาก ๆ เช่น
*เกี่ยวกับกรณีฉุกเฉิน การเคลื่อนย้ายเพื่อรักษาพยาบาลฉุกเฉิน หรือการเคลื่อนย้ายกลับประเทศไทย
*เกี่ยวกับการเดินทาง กรณียกเลิกการเดินทาง ไฟลท์ delay หรือพลาดการต่อไฟลท์เดินทาง (connecting flight)
*เกี่ยวกับกระเป๋าสัมภาระล่าช้าหรือเสียหาย ทรัพย์สินเสียหายหรือสูญหายจากการถูกชิงทรัพย์
มาดูสิ่งที่ประกันคุ้มครองแล้ว จริงๆมันก็มีประโยชน์กับเราพ่อแม่เองด้วยนะคะ อย่างบ้านเราโชคดีว่าตัวเองทำงานที่ต้องเดินทาง เลยได้ประกันการเดินทางแบบรายปีเป็นสวัสดิการจากบริษัทอยู่แล้ว เลยซื้อเพิ่มแต่ของลูก
- อยากซื้อประกันการเดินทางต้องทำยังไง
สมัยนี้ซื้อประกันง่ายมากค่ะ ไม่ต้องหาตัวแทนให้วุ่นวาย บางทีเราก็ขี้เกียจคุยอะเนอะ แล้วด้วยความวุ่นของชีวิตมนุษย์พ่อมนุษย์แม่ ก็ไม่ได้มีเวลาว่างเยอะ เราสามารถซื้อออนไลน์ได้ตามเวบไซต์ของบริษัทเค้าเลยค่ะ คลิก ๆ จ่ายบัตรเครดิตง่าย ๆ ไม่เกิน 15 นาที ซื้อตอนไหนก็ได้อีกต่างหาก สามารถกดซื้อระหว่างปั๊มนมรอบดึกเป็นการฆ่าเวลาได้นะคะคุณแม่ สำหรับการไปเที่ยว เราสามารถซื้อวันนี้ คุ้มครองพรุ่งนี้ได้เลยนะคะ ดีและสะดวกมาก ๆ
- เด็กเล็กซื้อประกันได้มั้ย
ซื้อได้ และต้องซื้อนะคะ ประกันการเดินทางที่แพนด้าเคยซื้อใช้จริงๆ มีแค่สองยี่ห้อนะคะ คือ Bupa ตอนก่อนขวบ (เป็นไม่กี่ยี่ห้อที่ให้ซื้อก่อนขวบนึงได้ค่ะ) แล้วพอครบขวบนึงก็เปลี่ยนมาซื้อกับ AXA ค่ะ จริงๆไม่ได้ศึกษาเปรียบเทียบทุกยี่ห้อนะคะ เพราะส่วนใหญ่จะมัวแต่เอาเวลาไปวางแผนเที่ยวซะมากกว่า จะมาซื้อประกันก็ตอนใกล้ๆ เดินทาง รีบๆ ทุกทีเลยค่ะ ยอมรับว่าเลือกบริษัทที่ดังๆ หน่อย อย่างน้อยสบายใจว่าน่าเชื่อถือและมั่นคง
== การเลือกประกันการเดินทาง ==
ส่วนตัวไม่ได้ขยันอ่านข้อมูลเยอะค่ะ ประกันการเดินทางก็ไม่ค่อยมีใครมาทำรีวิวให้ดูในเนต หาข้อมูลส่วนใหญ่จะเจอเป็นเวบไซต์ของบริษัทเค้าเอง เราเลยเลือกจากบริษัทประกันที่ชื่อเสียงคุ้นเคย และเป็นบริษัทอินเตอร์ (ส่วนตัวคิดว่าเครือข่ายของเค้าในต่างประเทศน่าจะดีกว่า และชื่อก็เป็นที่รู้จัก เผื่อเกิดเหตุอะไรไปเข้าโรงพยาบาลจะได้พูดชื่อบริษัทปุ๊บแล้วรู้จักเลย ) เราเลยลอง search สองสามชื่อบริษัทที่เคยได้ยินว่ามีประกันการเดินทาง แล้วเข้าไปดูแพคเกจในเวบไซต์ค่ะ เลยได้รู้จักกับ AXA ค่ะ
เราเลือกกดเข้ามาดู AXA เพราะบริษัทเค้าอินเตอร์ มาจากยุโรป สบายใจเรื่องความน่าเชื่อถือ พอเข้ามาดูในเวบไซต์ถึงรู้ว่าเค้าเป็นแบรนด์ประกันภัยอันดับ 1 ของโลกด้วยนะ ก่อนจะสรุปเป็นแบรนด์นี้เราลอง search อีกสองสามบริษัท มันก็คล้าย ๆ กัน ราคาไม่ได้ต่างกันมาก ยังไม่มีเวลามานั่งเปรียบเทียบละเอียดค่ะ แพนด้าตั้งใจไว้ค่ะว่าทริปหน้ามีเวลาแล้วจะมาลองเปรียบเทียบหลาย ๆ บริษัท แล้วจะมารีวิวให้ดูอีกทีนะคะ รอบนี้ขอผ่านไปก่อน มันข้อมูลเยอะ น่าจะต้องใช้พลังงานเยอะอยู่ค่ะ
รอบที่ผ่านมาเลยเลือกเอาแบรนด์ที่เราคิดว่าน่าเชื่อถือดีกว่า เลยเลือกเป็น AXA ที่เป็นอันดับ 1 ของโลกเนี่ยแหละค่ะ
แปะเวบไซต์ไว้ให้ลองศึกษาข้อมูลกันค่ะ https://www.axa.co.th/smarttraveller-plus
ประกันการเดินทางของ AXA ที่เราชอบ เทียบกับ Bupa ที่เคยซื้อมาหลายครั้ง ข้อดีคือมีความคุ้มครองเยอะมากมาย มีประเภทให้เลือกหลายประเภท ของ Bupa (รีวิวคลิกที่นี่) จะคุ้มครองแค่เรื่องสุขภาพและอุบัติเหตุ เนื่องจากเค้าจะเชี่ยวชาญเรื่องประกันสุขภาพ แต่บริษัทประกันที่มีประกันครอบคลุมหลายประเภท อย่าง AXA จะให้ประกันการเดินทางที่ครอบคลุมความเสียหายมากกว่า คือมีทั้งเรื่องสุขภาพและอุบัติเหตุเหมือนกัน แต่เพิ่มเติมประกันเกี่ยวกับการเดินทางเช่นการล่าช้า ความเสียหายของสัมภาระ ฯลฯ ด้วย (จริงๆบริษัทอื่นๆ ที่เราเห็นที่มีประกันการเดินทาง เช่น MSIG, AIG ก็ครอบคลุมพวกนี้เหมือนกันค่ะ)
ลองอ่านรายละเอียดความคุ้มครองที่ลิงค์นี้นะคะ คือมันค่อนข้างละเอียด อยากให้อ่านเองค่ะ แต่หลักๆ ความคุ้มครองจะครอบคลุมที่แพนด้าบอกไว้ด้านบนค่ะ คือ
- ได้รับการรับรองจากสถานทูตในกลุ่มแชงเก้น
- แผนประกันที่หลากหลาย คุ้มครองได้ ไม่ว่าจะเป็นการบาดเจ็บ เจ็บป่วย หรือชีวิต
- อุ่นใจได้เสมอกับ AXA Hotline เพียงแค่โทร 02-206-5488
- คุ้มครองถึงทรัพย์สินในการเดินทาง กรณีไฟลท์ยกเลิก ตกเครื่อง หรือ ยกเลิกการเดินทาง
https://www.axa.co.th/smarttraveller-plus
ลองเช็คราคาได้ที่หน้านี้ค่ะ แค่ใส่ประเทศและวันที่
https://direct.axa.co.th/TA/GetQuote
แพนด้าลองเปรียบเทียบราคาให้ดูค่ะ จากการกรอกข้อมูลในลิงค์ด้านบน เอาประเทศฮิตๆ มาให้ดูค่ะ
(ถ้าจะซื้อต้องเช็คดูอีกทีนะคะ ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ อันนี้เช็คตอน พ.ย.16 ค่ะ) ให้ดูคร่าว ๆ ว่าส่วนใหญ่ประกันการเดินทางราคาไม่ได้แพงมากค่ะ
สิงคโปร์/ฮ่องกง/ญี่ปุ่น/ เอเชีย ฯลฯ | 3 วัน | 5 วัน | 9 วัน | 11 วัน |
Gold | 400 | 500 | 800 | 1000 |
Silver | 240 | 299 | 380 | 449 |
เช็งเก้น/ยุโรป | 7 วัน | 9 วัน | 11-14 วัน | 15-21 วัน |
Platinum | 749 | 899 | 1100 | 1798 |
Gold | 599 | 800 | 1000 | 1300 |
**สำหรับวีซ่าเช็งเก้น จะต้องเป็นประกันแบบ Gold ขึ้นไป ซื้อแบบ Silver ไม่ได้นะคะ
แพนด้ามีทำรายละเอียดการซื้อออนไลน์ไว้ด้วย คลิกลิงค์นี้นะคะ รีวิวซื้อประกัน AXA online
บ้านไหนไม่ถนัดซื้อออนไลน์ จะซื้อผ่าน call center ก็ได้ค่ะ อย่าง AXA มี call center ราคา แพคเกจทุกอย่างเหมือนในเวบค่ะ 02-118-8111
== Tips อื่น ๆ เกี่ยวกับประกันการเดินทาง ==
- ซื้อออนไลน์ได้ ซื้อวันนี้ คุ้มครองพรุ่งนี้ ว่างตอนไหนก็ซื้อได้ 24 ชม. สะดวกมาก
- รายละเอียดเยอะ แพนด้าแนะนำให้ไปลองอ่านในเวบไซต์ดูค่ะ
- บ้านไหนไม่ถนัดซื้อออนไลน์ จะซื้อผ่าน call center ก็ได้ค่ะ อย่าง AXA มี call center ราคา แพคเกจทุกอย่างเหมือนในเวบค่ะ
- ซื้อเสร็จแล้วปริ้นท์เอกสารพกติดตัวไว้ตอนเดินทาง ถ้าเกิดเหตุใช้ได้เลยค่ะ
- อย่าลืมเก็บใบเสร็จกรณีต้องเคลมนะคะ ไม่งั้นถ้าลืมขอทีหลังต่างประเทศจะขอยากจ้า
** เพิ่มเติม หลังจากโพสท์เรื่องนี้ไปในเพจแล้วมีแฟนเพจมาแชร์ข้อมูลน่าสนใจ และน่าจะมีประโยชน์ค่ะ **