7 คำถามยอดฮิต เที่ยวเมืองจีนเองดีมั้ย| หมวยแพนด้าอิน China

ทริปนี้เกิดขึ้นอย่างกระทันหัน เพราะว่ามามี๊แพนด้ามีประชุมที่เซี่ยงไฮ้แบบด่วน ๆ รู้ล่วงหน้าสองอาทิตย์ค่ะ จริงๆแล้วไม่เคยคิดจะพาลูกไปเที่ยวจีนมาก่อน คือถ้าให้ไปเที่ยวเองคงไม่ไป พอมีประชุมเข้ามาเลยคิดว่าน่าลองหนีบพ่อลูกไปด้วยนะ เคยไปเซี่ยงไฮ้มารอบนึง รู้ว่ามันเที่ยวไม่ยาก ไม่ได้มีอะไรให้ไปเยอะ แล้วว่าจะไปเดินงาน expo ที่นู่นด้วย เปนทริปมีสาระน๊า มะได้เที่ยวอย่างเดียว 🙂

พอจะไปก็พยายามหาข้อมูล ปรากฏว่าหายากมาก เซี่ยงไฮ้คงไม่ใช้เมืองฮิตของคนไทย ส่วนใหญ่เค้าก็ไปกันเมืองสวย ๆ ธรรมชาติ มีประวัติศาสต์ ไปแถวปักกิ่ง คุนหมิง ฯลฯ เซี่ยงไฮ้ไม่ค่อยจะมีคนรีวิวเท่าไหร่ ยิ่งพาเด็กเที่ยวนี่หามิได้ จะเริ่มมีก็ไป disneyland กัน ซึ่งทริปนี้เราไม่ไปเนื่องจากไม่มีเวลา และอ่าน ๆ รีวิวมาความเห็นหลากหลายมาก เลยคิดว่ายังไม่อยากจะลองฮ่ะ เพิ่งไป Hong Kong Disneyland มาไม่นาน ไว้ก่อนละกัน ไปเจอเวบแม่ฝรั่งพาลูกเที่ยวเซี่ยงไฮ้ ก็ดูโอเคนะไม่ลำบากมาก เลยตัดสินใจว่าพกลูกมาด้วยละกัน วันที่มามี๊ทำงานก็ให้พ่อคุณเค้ากระเตงลูกเที่ยวไป

post นี่เลยอยากจะรวบรวม tips ที่เราได้จากการเที่ยวครั้งนี้นะคะ อันนี้ความเห็นส่วนตัวล้วน ๆ นะ จากประสบการณ์แค่ครั้งนี้ ใครเจอต่างกันแชร์ได้นะคะ 🙂

** #1 คำถามยอดฮิต  – speak english กันได้ป่าว **

No English จ้า ถึงแม้ที่นี่จะเป็นเมืองใหญ่ หน้าตาบ้านเมืองดูเจริญมากมาย คนส่วนใหญ่ก็ยังไม่ค่อยจะพูดอังกฤษนะคะ คือพนักงานโรงแรมหรือตามห้างใหญ่ ๆ ก็พูดอังกฤษพอดี แต่ทั่วๆ ไปนี่ไม่พูดเลยนะ คือเราพูดภาษาอังกฤษแบบต้องภาษามือประกอบ แล้วก็จะตอบมาเป็นภาษาจีน คือเดากันเหนื่อย .. อันนี้ลองมากะทั้ง คนขับแท๊กซี่ พนักงานร้านอาหาร ทั้งร้านแบบดีๆ โต๊ะจีนและร้านทั่วๆไปในห้าง รวมไปถึงร้านอาหารในสนามบิน (Burger King/ McDonald) พนักงานขายตั๋วที่สถานีรถไฟ พนักงาน registration ที่ Expo ที่ไป พนักงานเสิร์ฟที่ Breakfast โรงแรม (แต่เค้าจะมีคนพูดอังกฤษได้อยู่ เค้าจะไปตามมาพูดกะเราแทน) พนักงานขายตามร้านในห้างส่วนใหญ่ก็พูดไม่ได้ เดินเข้าไปถามทาง ว่าร้านนี้ๆ อยู่ตรงไหน ตอบเลยว่า “no english!” .. thank you เลยจ้า

พูดกันไม่รู้เรื่องทำไงดี

  • โหลด Baidu translate ไว้ก่อนเรย แอพนี้สามารถ
    • ถ่ายภาพป้ายภาษาจีนแล้วแปลได้ แปลแม่นอยู่ ลองมาหลายรอบแล้วค่า ต้องพึ่งตัวเองนิดนึง ถ้าถามเค้าไม่รู้เรื่อง ก็หาป้ายอ่านเอา
    • สามารถพิมพ์ภาษาจีนแปลเป็นอังกฤษ หรือพิมพ์อังกฤษให้แปบเป็นจีนได้ อย่างหลังจะมีประโยชน์เวลาอยากจะถามอะไรคนอื่น พิมพ์ให้แอพแปลเป็นภาษาจีน เอาให้เค้าอ่าน แต่เวลาเค้าตอบกลับมาเป็นภาษาจีนก็เดาเอานะ 555 แต่ถ้าเราถามเบสิคๆ คนตอบเค้าก้อมีวีธีตอบนะ เช่นเราไปถามตรงเรือ ferry ว่าเรือลำถัดไปมาเมื่อไหร่ พิมพ์ในแอพแปลจีนให้เค้าอ่าน เค้าก้อเอานาฬิกาขึ้นมาชี้เลขให้ดูงี้ ก็รู้เรื่องอยู่
    • จริงๆมีออพชั่นกดให้พูดแล้วแปลด้วย แต่ยังไม่ได้ลองทำ ใครโหลดแอพนี้มาใช้ก็ลองดูนะ
  • หาคนที่คุยกะเรารู้เรื่อง เช่นพนักงานที่รร. ถ้าเราต้องคุยหรือถามเรื่องอะไรให้เค้าเขียนใส่กระดาษไว้ เอาไว้ยื่นให้คนจีนอ่านได้ ควรจะเป็นเรื่องที่เค้าไม่ต้องโต้ตอบเยอะ ไม่งั้นตอบมาเราไม่เข้าใจอยู่ดี เรามีวันสุดท้ายต้องคืนบัตร ic card ของรถไฟ อยากรู้ว่าได้ตังค์คืนมั้ย เราก็ให้พนง.รร.เขียนใส่กระดาษไปยื่นให้ที่สถานีรถไฟ จนท.ก็เอาตังค์คืนให้เลย เวิร์คมาก เพราะตอนขาที่จะซื้อบัตรนี่ใช้ภาษามือกันอยู่นานกว่าเค้าจะเข้าใจว่าเราจะซื้อบัตรอะไร คือที่ตู้ขายบัตรไม่ได้มีเมนูให้เลือกนะคะว่าจะซื้อบัตรอะไรราคาเท่าไหร่ (ทำไมไม่มีน๊อออ) เราก็ภาษามือกันเอา เค้าก็พูดไป จิ้มตัวเลขในเครื่องให้ดู ก็เดาๆ กันไป
  • พกบัตรที่อยู่รร.ติดตัวไว้ เผื่อหลงทางจะได้เอาไว้ถามทางได้
  • ขาไป ควร print ที่อยู่รร. หรือแผนที่พกไว้ กันหลง เพราะถ้าหลงแล้วหาคนถามลำบากมาก

** #2 ใช้อินเตอร์เนตได้มั้ย facebook Line บล็อกป่าว **

ก่อนไปหาข้อมูลในเนต และถามจากคนที่อยู่ จะมีตอบทั้งแบบใช้ได้และใช้ไม่ได้ ไอ้เราก็ต้องใช้ Line ติดต่องานเยอะ แอบเครียดค่ะ ข้อมูลที่ได้มาคือ ส่วนใหญ่จะใช้ไม่ได้ แต่เนต wifi โรงแรมอาจจะได้ ถ้าใช้ไม่ได้ จะมีแอพ VPN ที่ให้เปิด sign in ก่อน แล้วค่อยเปิดเล่นแอพที่เมืองจีนเค้าบล็อกก็จะเล่นได้ แอพชื่อ Betternet / Lantern วิธีใช้แค่เปิดแล้วกดปุ่มเริ่ม แล้วค่อยเล่นแอพอื่น ๆ จะเล่นได้ค่ะ เราก็โหลดมาไว้เผื่อกะว่าจะไปลองใช้ แต่ปรากฏว่าเนตรร.เราเล่นได้ (Hilton Shanghai) ทุกอย่างเลย เฟซ ไลน์ google ทั้งจากมือถือ และ เปิดคอมเล่นก็ได้ เลยโชคดีไปค่ะ แต่เวลาออกนอกรร. ถ้าเราไปใช้ free wifi ข้างนอกจะเล่นไม่ได้นะคะ เข้าใจว่ามันคือเนตที่จีนจะ block ได้

  • แต่ถ้าเราเปิด data roaming ไปจากซิมไทย เราลองแล้วสองเครื่อง AIS กะ True เล่นได้ทั้งคู่ AIS เนตดีเลย ส่วน True แทบโหลดอะไรไม่ได้ แค่ line ได้ แต่อย่างอื่นช้ามาก แต่อย่างน้อยเราก็ติดต่อกะโลกภายนอกได้เนอะ
  • พวก Pocket wifi ให้เช่านี่ไม่ชัวร์ว่า block มั้ย แต่แนะนำว่าใช้ data roaming ไปเถอะค่ะ เพราะราคาพอ ๆ กะ pocket wifi สะดวกกว่าตั้งเยอะ ไม่ต้องไปจ่ายค่ามัดจำแพงๆ ละมาดูแลตัวเครื่อง wifi อีก
  • local sim ไปซื้อที่นู่น มีที่สนามบินและร้านสะดวกซื้อ ราคาไม่แพง โทรกลับไทยถูก แต่ block facebook line หมดค่ะ

ดังนั้นก่อนไป กันไว้ก่อน เผื่อใช้เฟซกะไลน์ไม่ได้ ควรโหลดแอพ VPN มาเผื่อ (Betternet/ lantern) และสำหรับแชท ลองโหลด wechat มาไว้ค่ะ มันเหมือนไลน์เลย แต่ว่าเป็นของจีน มันจะไม่ block นะ

** #3 google map ใช้ได้มั้ย **

บอกเลยว่าไม่แม่นเหมือนที่อื่นค่ะ เข้าใจว่าเพราะรัฐบาลจีนมันบล็อกอะไรหลายอย่าง ข้อมูลใน google เลยไม่ค่อยจะอัพเดท เคยพยายามหา shanghai disneyland ใน google map หาไม่เจอ ไม่รู้ป่านนี่้มียัง แล้วเวลาให้คำนวณเวลากะวิธีเดินทาง ของการเดินทางสาธารณะมักจะคลาดเคลื่อนเยอะ จะใช้เวลาเยอะกว่าขับรถเยอะเว่อ ๆ เช่นเดินทางโดยรถ 15 นาที นั่งรถไฟ ชม. นึง ไรงี้

แล้วจะทำไงไม่ให้หลงทาง

  • โหลด shanghai metro app มันจะแม่นยำกว่าสำหรับการแพลนขึ้นรถไฟ เพราะจะมีเวลาขึ้น เวลาเดินทาง เวลาต่อสายบอกชัดเจน ที่เซี่ยงไฮ้รถไฟเค้ามีจำนวนสายเยอะมาก ครอบคลุมบริเวณกว้างมาก สะดวกมาก ๆ ค่ะ
  • ดู google map คือดูเป็นตัวช่วยว่าจุดที่เราจะไปมีรถไฟใกล้ ๆ มั้ย สถานีอะไร แล้วเอาสถานีมาคำนวณเวลาในแอพ Shanghai metro แทนจะได้เวลาที่แม่นยำกว่า
  • วางแผนการเดินทางล่วงหน้าทุกวัน จะได้ไม่หลงค่ะ

** #4 เดินทางโดยรถอะไรดี **

มีให้เลือกทั้งรถแท๊กซี่ รถเมล์ รถไฟ ขอข้ามรถเมล์ไปค่ะ ดูเหนื่อยไป อากาศร้อน รถก็ติด

รถแท๊กซี่ มีทั้งเก่าใหม่ปนๆ กัน ราคาแท๊กซี่ไม่ถูกไม่แพงค่ะ นั่งใกล้ ๆ ก็น่าจะไม่เกิน 60-70 RMB นั่งจากสนามบินไปรร.ในเมืองประมาณ 200 RMB นิด ๆ แต่ถ้าเป็น rush hour หาแท๊กซี่ยากมาก เพราะที่นี่คนจีนเค้าเรียกแท๊กซี่ผ่าน app กันเยอะ แนวๆ grabtaxi/ uber ทำให้เวลาเร่งด่วน แท๊กซี่เค้าไปรับลูกค้าที่จองผ่านแอพกันหมด และลูกค้าสามารถ bid ค่าแท๊กซี่ ประมาณว่าถ้าแท๊กซี่มาช้า ลูกค้าสามารถเสนอราคาแพงขึ้นได้ แท๊กซี่ก็อาจจะเปลี่ยนใจมารับลูกค้าที่ให้ bid ค่าแท๊กซี่เยอะกว่า คุยกะคนที่นี่ เค้าก็บอกแท๊กซี่ก็อาจจะเรียกยาก บางทีโบกละไม่ค่อยจะจอด เราเลยตัดสินใจว่าทริปนี้นั่งแท๊กซี่แค่จากสนามบินพอ

รถไฟ ดูโอเคมากๆ นะคะ สะดวก สายเยอะ ไปได้ทุกที่ ถูกมาก ๆ เที่ยวละ 3 RMB เอง (คูณห้าบาทเป็นเงินไทย) จะเหนื่อยตรงที่มันคนเยอะมาก rush hour เบียดสุดๆ โดนดันทั้งขาขึ้นและขาลงจากรถ ต้องเลือกเวลาขึ้นค่ะ

** #5 คนจีนใจดีมีมั้ย **

วันแรกเราเข็นรถเข็นลูกขึ้นรถไฟตอนเย็น rush hour โดนคนจีนมองด้วยสายตาแย่มาก แบบว่าแกรเอารถเข็นมาทำไร เราก็ทำเป็นไม่สนใจ เพราะเราต้องขึ้นเหมือนกันนี่นา .. คือโดนดันหน้าหลังซ้ายขวาเลยค่ะ คนมีน้ำใจมั้ย เราจะเห็นผู้ใหญ่อุ้มเด็กยืนไม่มีที่นั่งเรื่อย ๆ คนเค้าก้อไม่ค่อยลุกให้กันนั่งนะคะ แต่ถ้ามีคนจะลุกนี่นั่งว่างนี่มีคนเตรียมพุ่งเสียบค่ะ การแข่งขันสูงมาก มีครั้งนึงเจอผู้ชายสองคนแย่งกันวิ่งเข้ารถไฟมาแล้วแย่งที่กันนั่ง เถียงกันโหวกเหวกเสียงดังเลยค่ะ วันหลัง ๆ เราก็มีคนช่วยลุกให้นั่งสองสามคนค่ะ น่ารักมาก ๆ เลย สรุปว่าคนจีนใจดีมั้ย ปน ๆ กันเป็นหลายแบบ ทั้งใจดี ทั้งเห็นแก่ตัวค่ะ

ส่วนเรื่องมารยาทนี่ต้องทำใจค่ะ เค้าไม่ค่อยจะสนใจกันเท่าไหร่ อย่างการเบียดกันดันกันโดนตัวกันในรถไฟเป็นเรื่องธรรมดา ก็รถเค้าแน่นจริง และอีประตูรถไฟปิดเร็วม๊ากกก ทุกคนต้องช่วงชิงพื้นที่ค่ะ วันที่เอารถเข็นไป ขากลับเป็น rush hour หกโมงกว่า แน่นมาก แทบจะขึ้นรถไม่ได้ ดันตัวเองเข้าไปก็อยู่หน้าประตู พอจังหวะสถานีถัดไปคนจะลง ก็ดันๆๆ ลงมา ดันรถเข็นเราลงออกมาด้วย แบบดันรุนแรง เพราะเค้าจะลง พอพวกเค้าลงเสร็จ เราจะเข็นรถเข็นขึ้นไป ประตูปิดพอดีรถเข็นที่มียัยแพนด้านั่งอยู่คาอยู่กลางประตู ส่วนตัวพ่อแม่นี้อยู่ข้างนอก โชคดีว่าประตูมันเซนเซอร์เหมือนกัน มันเลยเปิดแล้วเราสองคนตัดสินใจกระโดนขึ้นทันประตูปิดพอดี เห้อ เหนื่อยเรยค่ะ

เรื่องเยอะเนาะ จะเล่าหมดมั้ย เวลาเดินๆ อยู่ตามถนนหนทาง จะโดนคนเดินตัดหน้าเป็นเรื่องธรรมดา ภ่ายรูปกัน ที่ให้เดินอ้อมแบบไม่ตัดหน้าเราก็เหลือเฟือ แต่เค้าไม่ค่อยจะชอบเลี้ยวกันค่ะ ก้อถ่ายไปค่ะ เค้าก้อจะเดินตัดหน้ากันไปค่ะ ถ่ายรูปนี่ยากจริงไรจริง มีอยู่จังหวะนึงเดินผ่านร้านขายของ คนเดินออกมาจากร้าน ยื่นแขนตัดหน้าเราโปรยเศษอาหารหรืออะไรไม่รู้แห้งๆข้ามหน้าเราไปเรย คือโชคดีที่ลมไม่พัดมา ถ้าพัดคงเข้าหน้าเลยทีเดียว

อีกช็อตนึงคือตอนไปยืนดูวิวริมแม่น้ำ Huangpu ตรงจุดฮิต มองไปเห็นหอไข่มุก คนก็เยอะมาก ทุกคนก็อยากจะเบียดเข้าไปอยู่ริมจะได้ดูวิวและถ่ายรูป เราก็รอจนช่องว่างเข้าไปได้ ทีนี้ตอนเรายืนดูวิวกันอยู่ สามีวางแขนไว้ตรงขอบราวจับ คือศอกก็กางออกจากตัวตามปกติใช่ปะคะ มีสาวจีนนางนึงเบียดตัวเองเข้ามา คงอยากดูวิวเหมือนกัน แล้วก็มายืนเบียดตรงศอกคุณสามี คือเอาหน้าอกตัวเองนี่ข้าวางบนแขนคุณสามีเลยจ้า .. เขินแทนเลยอ่า -_-” เค้าไม่รู้สึกไรเรยหรืองัย ไม่เข้าใจ มีรูปประกอบว่าเบียดกันขนาดเน้ .. เราก็เบียดกะเค้าด้วย .. ยืนอยู่นาน แล้วพอเดินต่อไปซักพัก คนโล่งเชียว คือคนไปกระจุกอยู่ตรงนั้นที่เดียว เดินออกมาอีกไม่ไกล ถ่ายรูปสบาย ชั้นจาไปเบียดกะเค้าทามมายยย

** #6 ใช้บัตรเครดิตได้มั้ย **

น้อยมากค่ะ ต้องเป็นห้าง ร้านอาหารในห้าง หรือรร. แต่ทั่วๆ ไปไม่รับเลย ต้องพกเงินสดไปเผื่อ คำนวณค่าใช้จ่ายดีๆ ค่ะ

** #7 เซี่ยงไฮ้ปลอดภัยแค่ไหน **

เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงจะเคยได้ยินข่าวว่าชอบมีเด็กหาย พาเด็กไปเที่ยวจะโดนอุ้มไปมั้ย อันนี้คิดว่าขึ้นอยู่กะสถานที่ๆเราไปค่ะ และเราดูแลลูกดีแค่ไหน คือถ้าไปที่คนเยอะ ๆไม่ปล่อยเดินเองค่ะ อุ้มเอา หรือถ้าให้เดินก็จูงตลอด ไม่ปล่อยวิ่ง ไปมาห้าวันก็ไม่ได้รู้สึกน่ากลัวอะไรขนาดนั้นนะคะ

เรื่องล้วงกระเป๋าอะไรก็เป็นเรื่องที่เราต้องระวังตัวเมื่อไปที่คนเยอะๆ อยู่แล้ว ไม่ได้เจออะไรผิดสังเกตุเช่นกันค่ะ ไปตามที่เที่ยวคนเยอะ แต่ไม่ได้แน่นขนาดเบียดกัน พอจะมี space

ส่วนการเดินทางตอนกลางคืน แนะนำว่าพยายามถึงที่พักซักสามทุ่มกว่าไม่เกินสี่ทุ่มค่ะ เรามีวันนึงเดินเล่นกันเพลิน กลับถึงตอนสี่ทุ่มกว่า ถนนเงียบเลย คนน้อยมาก แอบกลัวเหมือนกันค่ะ ที่นี่ทุกอย่างส่วนใหญ่ปิดสี่ทุ่มค่ะ ห้างกะซุปเปอร์ก็ปิดสี่ทุ่ม ในสถานีรถไฟตอนสี่ทุ่มคนเยอะเลย คงรีบกลับกัน แต่ละสถานีจะมีบอกเวลารถออกขบวนสุดท้าย สถานีที่ใกล้ รร.เราคือ jing’an temple บอกว่าขบวนสุดท้ายตอนห้าทุ่มกว่าๆ

อันนี้มองสำหรับทั่ว ๆ ไปค่ะ โดยรวมถามว่าเที่ยวยากมั้ย ก็ไม่ยากมากนะคะถ้าเตรียมตัวดี ๆ ทุกอย่างเตรียมได้ค่ะ อาจจะไม่ชิวเท่าญี่ปุ่น ฮ่องกง สิงคโปร์ที่เราคุ้นเคย แต่ไม่ได้ยากเกิน รถไฟโอเคนี่เที่ยวง่ายขึ้นเยอะค่ะ

เดี๋ยวคราวหน้ามาเพิ่ม tips ที่เกี่ยวกับเด็กนะคะ 🙂

shanghai riverwalk_9896.jpg