ต่อเนื่องจากครั้งก่อนที่เคยปล่อยพ่อกะลูกไว้อยู่ด้วยกัน 6 ชม. ตอนแพนด้าอายุขวบกว่า หลังจากนั้นคุณพ่อบ้านใจกล้าของบ้านเราก็เก่งขึ้นเยอะค่ะ อยู่กะลูกเยอะขึ้น เริ่มเอาลูกนอนเองแล้วอยู่ได้ทั้งคืนถึงเช้า (ฝึกตอนอยู่ด้วยกันก่อน แล้วลองจริงๆ ตอนมามี๊แพนด้าไปทำงานตปท.ค่ะ)

ทีนี้แน่นอนว่าคุณพ่อบ้านแฮปปี้สุด ๆ มั่นใจ ลูกก็ยิ่งติดพ่อมาก ๆ เลยคิดว่า step ต่อไปได้แล้วหล่ะ ต้อง up level ให้พี่เค้าหน่อย เค้าชอบความท้าทาย

เลยเป็นที่มาของทริปบินเดี่ยวกับลูกสองต่อสองค่ะ

พอดีมามี๊แพนด้ามีทริปไปประชุมที่ฮ่องกง แล้วมีวันหยุดยาวต่อ เป็นโอกาสดีที่สองพ่อลูกจะตามไปอยู่เที่ยวด้วยกันต่อ เนื่องจากมี๊ประชุมเครียด ปกติจะไม่เคยหิ้วคุณลูกและสามีไปด้วยพร้อมกันค่ะ ไม่ได้ ๆ เดี๋ยวไม่มีสมาธิทำงาน ลูกก็น่ารักเกิ๊น ก่อนหน้านี้เลยไม่เคยมีทริปทำงานที่คุณลูกกะคุณพ่อตามไปเที่ยวด้วย เนื่องจากยังไม่ค่อยมั่นใจว่าคุณพ่อพร้อมมั้ย

แต่คราวนี้พี่เค้าบอกเองว่าเค้าพร้อม !!

เคร มีีจัดให้ รีบจองตั๋วรัวๆจังหวะพี่เค้ายังงงๆ ไม่รอให้มีโอกาส second thought 😀 พอจองให้เสร็จพี่เค้าก้อมีแอบนอยเล็กน้อย เราเลยต้องมาช่วยกันเตรียมตัวค่ะ

== จองตั๋วเครื่องบิน ==

ก่อนอื่นก่อนจะจอง เราคิดกันดีแล้วค่ะว่าน่าจะเอาอยู่ เพราะว่าบินไฟลท์ใกล้ ๆ มีเวลาพ่อลูกสองต่อสองไม่นานมาก คือเกือบสามชม. (เอ๊งงง :p )

เราเลือกเวลาบินตอนเช้า ไม่เลือกเย็นหรือกลางคืน เพราะฮ่องกงเวลาช้ากว่าไทย หนึ่งชม. จะกลายเป็นถึงค่ำไป แล้วต้องมาเดินทางจากสนามบินเข้าเมืองอีก แต่บินเช้าก็จะแอบวุ่นวายนิดนึงตอนเอาลูกขึ้นมาจากเตียงแล้วไปขึ้นเครื่องค่ะ

ครั้งนี้ครั้งแรกที่แพนด้าบินแบบต้องซื้อที่นั่งเพราะอายุครบสองขวบแล้วค่ะ เลยต้องตั้งใจหาตั๋วราคาดีๆ รอบนี้พึ่ง skyscanner.com ค่ะ เป็นเวบที่ช่วยหา flight ราคาถูกที่สุด โดยใส่ข้อมูลเหมือนเวลาจองตั๋วเครื่องบินเลย แล้วเค้าจะมีขึ้น flight มาให้เลือกตามราคา ไปช่วง พฤษภา วันหยุดต้นเดือน โชคดีว่ามีโปร Hong Kong Airlines เป็น full service แต่ราคาถูกกว่า low cost อีก จัดไปค่ะ คุ้มค่า สองคนประมาณเกือบ 12,000 ราคานี้คือกระเป๋า 20 กก.ต่อคน พร้อมอาหารบนเครื่อง แนะนำเวบ skyscanner เลยค่ะ คือเค้าเทียบราคาทั้ง full service และ low cost จะได้ไม่พลาดไปจอง low cost แพงกว่า full service น๊าาาา

== ก่อนเดินทาง : จัดกระเป๋า ==

อันนี้เราช่วยกันจัดค่ะ โชคดีพ่อแพนด้าเป็นคนเยอะ เรียบร้ อย จัดกระเป๋ามีระเบียบมาก เราแค่ช่วยเตรียมของ

เตรียมสัมภาระเหมือนปกติที่เราพกเวลาพาแพนด้าไปเที่ยวค่ะ

• ชุดสำรอง 2 ชุด
• เพิส 6 อัน (สำหรับเวลาประมาณ 6 ชม. จากออกจากบ้านถึงเจอกันที่สนามบินที่ฮ่องกง) ไม่ได้ให้พกเยอะกว่านี้ เพราะว่าพอเจอกันมามี๊แพนด้าจะมีกระเป๋าของเด็กอีกใบพกมา อันนี้เอาให้แค่พอใช้ตอนเดินทางค่ะ
• ผ้าอ้อมผ้า เอนกประสงค์ เผื่อต้องเช็ด หรือกันเปื้อน
• ถุงพลาสติก พับไว้หลาย ๆ ใบ ไม่เปลืองที ไว้ใส่เพิสใช้แล้ว หรือทิ้งขยะ
• ขนมของโปรดไว้หลอกล่อต่อขึ้นเครื่อง
  • ขนมมีประโยชน์ — gummy vitamin c, puff, ลูกเกด, yogurt melt
  • ขนมของโปรดที่พ่อเค้าชอบไว้ spoil ลูก — gummy bear, โดนัทใส่คัสตาร์ดของเซเว่น, ขนมปัง
• เอกสารการเดินทาง (e-ticket ใส่กระเป๋ารวมไว้กับพาสปอร์ตเลย)

เราเตรียมก่อนล่วงหน้าอาทิตย์นึงค่ะ จะได้มีเวลาชิว ๆ ค่อย ๆ นึกว่าอยากเอาอะไรไปบ้าง

== วันเดินทาง : ก่อนขึ้นเครื่อง ==

tips ที่เราทำเพื่อช่วยให้ชีวิตคุณพ่อง่ายขึ้น

• ให้ลูกไปนอนกับอาม่าคืนก่อนเดินทาง ยัยพ่อจะได้พักผ่อนเยอะ ๆ ไม่งั้นเกิดลูกงอแงตอนกลางคืน เดี๋ยวจะตื่นกันไม่ไหว สรุปว่าพ่อดั๊นนนตื่นเต้น ให้อยู่คนเดียวตั้งใจนอนก็นอนดึก เพราะตื่นเต้น
• ตอนเช้าอาม่าช่วยปลุกแพนด้าขึ้นมาเตรียมตัวรอป๊าตื่นลงมาแล้วไปสนามบินด้วยกัน จริงๆผิดแผนนิดนึง เพราะปกติเวลาพาลูกบินเช้า เราจะไม่ปลุกลูก จะอุ้มขึ้นแท๊กซี่ไปเลยแบบหลับ ๆ ให้หลับได้เต็มที่
• เราลืมคิดเรื่องข้าวเช้า เพราะคิดว่าเช้ามากคงกินข้าวไม่ทัน (ไฟลท์ 8.30 ต้องออกจากบ้าน 6 โมง เพื่อให้ถึงสองชม.ก่อนบิน เพราะจะได้ไม่รีบมาก) อาม่ากลัวจะหิว ป้อนนมให้ขวดนึง ก่อนออกจากบ้าน
• ไปแท๊กซี่นะคะ จะได้ไม่ต้องห่วงเรื่องการเดินทางเอาลูกนั่งคาร์ซีท ฯลฯ และไม่ต้องกวนให้คนอื่นมาส่ง บ้านใกล้สนามบินค่ะ ไปสุวรรณภูมิแค่ครึ่งชม.เอง
• พ่อมีสัมภาระแค่เป้หนึ่งใบ กับรถเข็นหนึ่งคัน แม่ขนกระเป๋าเดินทางไปก่อนค่ะ

ตอนแรกจองแท๊กซี่ให้มารับที่บ้าน 6.15 น. นึกว่าจะชิว ๆ ถึงสนามบินซัก 6.45 ไม่ต้องรีบเดินไป gate แต่มันก็ต้องมีเหตุการณ์คับขันตลอด ๆ แพนด้าขึ้นแท๊กซี่เรียบร้อย หลับต่อ

  

[หน้าสลึมสลือ ตอนแรกเค้าตั้งใจใส่เสื้อสีเดียวกัน เป็นเสื้อทีม ป๊าเค้าบอกว่าถ้ามีไรจะได้หาง่าย ๆ เกิดวิ่งเล่นซนก็แต่งตัวสีให้ป๊าหาง่าย]

ทุกอย่างดูเหมือนจะราบเรียบ พอถึงสนามบิน เอารถเข็นกาง กะลังจะให้ลูกนั่ง ลูกอ้วกกกกค่ะ นมที่ทานไปมะกี๊ออกมาหมด -_-” คิดบวกค่ะ อย่างน้อยพ่อไม่ได้อุ้มอยู่ ไม่ได้เลอะคู่ คือเอาลูกวางพื้น กะลังจัดการเอารถเข็นกาง และโชคดียังไม่ได้นั่งรถเข็น ไม่งั้นเลอะรถเข็นด้วย

แต่ก็ทำให้เค้าเสียเวลาไปกะการพาลูกเปลี่ยนชุดและเช็ดทำความสะอาดไม่ให้เหม็นกลิ่นอ้วกค่ะ มัวแต่ทำความสะอาด กว่าจะเข้าไปตรวจ immigration ก็เสียเวลาไปเยอะ (เข้า premium lane ได้นะคะ มีเด็กเล็ก ประหยัดเวลาไปเยอะ) จากจะชิวกลายเป็นไม่ชิวค่ะ รีบวิ่งไปเกทแทบจะไม่ทัน โชคดีมีแค่รถเข็นกะเป้เบา ๆ โชคดีมีชุดสำรองสองชุดนะฮะ อย่างน้อยอุ่นใจ เผื่อขึ้นเครื่องมีเหตุไรอีก ก็ยังมีอีกตั้งหนึ่งชุดแน่ะ :p

[เปลี่ยนเสื้อแล้วค่า ยิ้มแหย ๆ เหม็นอ้วกตัวเองมั้ง]

== boarding & take off! ==

สองขวบแล้วง่ายแล้วค่ะ ช่วงนี้เป็นวัยพูดตลอดเวลา ไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องเจ็บหู แต่เราก็เตรียมขนมขึ้นเครื่องไปเผื่องอแงต้องให้เพื่อสงบสติอารมณ์

วัยนี้ต้องระวังการกระโดดลงจากที่นั่งไปกวนคนอื่นค่ะ สอนให้เป็นระเบียบนั่งกับที่ แต่ก็ยากอยู่ค่ะ สนใจเค้าไปหมดรอบข้าง

พกขนมไว้หลอกล่อค่ะ สรุปว่าเกือบสามชม.นี่ไม่ได้นอนค่ะ คึกมาก

พอใกล้ๆ จะ land ที่ฮ่องกง ก็น๊อคค่ะหมดแรง ลงมาจากเครื่องสภาพนี้ ป๊าแพนด้ามีแววตาที่ภูมิใจในตัวเอง จ้าาา เธอเก่งๆ มามี๊ยกนิ้วให้เลย 🙂

ที่เขียนมาทั้งหมดนี้ อยากจะบอกว่า

1. พ่อบ้านบ้านไหนยังเลี้ยงลูกไม่เก่ง ให้โอกาส ให้เค้าได้ลองใช้เวลา เค้าอาจจะติดใจก็ได้นะ ป๊าแพนด้ามามีจุดเปลี่ยนตอนเกือบขวบนึงแน่ะค่ะ
2. อายุสองขวบเป็นอายุที่โอเคในการพาลูกบินเดี่ยวค่ะ พูดรู้เรื่องเยอะแล้ว พูดว่าหิว พูดว่าจะเข้าห้องน้ำได้ แค่นี้ก็สบายละ

สองหาโอกาสให้คุณพ่อได้เลี้ยงลูกเต็ม ๆ กันนะคะ ^^