ก่อนจะเลือกประเทศ ต้องดูปัจจัยต่าง ๆ ที่มีผลต่อการเลือกค่ะ
- ระยะเวลาเดินทาง เด็กเล็กก่อนขวบนึง ยังมีกิจวัตรประจำวันเยอะ ยังนอนเยอะ กินบ่อย อึบ่อย ดังนั้นถ้าเวลาเดินทางนานก็จะมีความวุ่นวายเวลาที่อยู่บนเครื่องเยอะ หรือหากใครเลือกเดินทางตจว.ไกล ๆ ที่ต้องเดินทางทางรถยนต์หลายชั่วโมงก็จะมีความวุ่นวายคล้าย ๆ กันค่ะ คิดว่าประเทศใกล้ ๆ บ้านเราอย่างเช่นสิงคโปร์ ฮ่องกง ไต้หวัน เป็นตัวเลือกที่ดีค่ะ หรือถ้าจะไปไกลอีกนิด ก็ขอซักญี่ปุ่นละกัน บิน 6 ชม.พอจะไหวอยู่ค่ะ หากคิดบินไกลกว่านั้นข้ามทวีป อยากจะให้ลองค่อย ๆ ที่ละ step เริ่มจากใกล้ ๆ ก่อน แล้วลองญี่ปุ่นซักครั้ง ก่อนจะข้ามทวีปไปยุโรป 10 กว่าชม. หรือ ออสเตรเลีย 9 ชม.
- ความเจริญและความสะอาดของประเทศ/ เมืองที่ไป คือ เราคิดว่าถ้าลูกเริ่มชินกับการเที่ยวและไม่ค่อยจะงอแงละ เราอาจจะคิดว่าง่าย ไปไหนก็ได้ แต่ยังไงควรคำนึงถึงความสะดวกสบายด้วยค่ะ อย่างประเทศที่พูดถึง คือสิงคโปร์ ฮ่องกง ญี่ปุ่น เรามองว่าได้ทั้งระยะทางกำลังดี และประเทศสะอาดสะดวกสบาย เนื่องจากเด็กเล็ก (โดยเฉพาะช่วงก่อนขวบนึง) อาจจะยังภูมิคุ้มกันร่างกายไม่แข็งแรง จะป่วยได้ง่าย เราเลยขอเรื่องมากเรื่องประเทศที่ไปนิดนึง คือต้องคิด worst case เกิดป่วย หรืออุบัตเหตุอะไรซีเรียสต้องหาหมอ จะมีโรงพยาบาลดี ๆ ให้ไปมั้ย พอคิดแบบนี้แล้ว ประเทศเพื่อนบ้านหลาย ๆ ประเทศที่เราไม่มั่นใจเรื่องการรักษาพยาบาลขั้นพื้นฐาน อย่างพม่า เวียดนาม ลาว มีที่เที่ยวสวย ๆ และใกล้บ้านเรามาก แต่ไม่ผ่านข้อนี้ เลยโดนตัดไปซะก่อนค่ะ ขอเรื่องมากนิดนึงเพื่อความสบายใจ
- มีสถานที่เที่ยวที่เหมาะกับเด็กเล็กบ้าง (เน้นว่าบ้าง เพราะเนื่องจากเด็กเล็กมาก เอาจริงๆ เค้ายังไม่ค่อยรู้เรื่องมาก จัดโปรแกรมเที่ยวควรจัดเพื่อเอาใจพ่อแม่บ้าง หรือถ้าไปกันทั้งครอบครัวใหญ่ ปู่ย่าตายาย ควรดูความเหมาะสมของทั้งครอบครัว ไม่ได้จัดเพื่อเอนเตอร์เทนเด็กอย่างเดียวจ้า) เหมาะในแง่ความสะดวกสบาย มีกิจกรรมในร่มสลับกับออกกลางแจ้ง (ควรสลับบ้าง เพราะเด็กเล็กยังไม่แข็งแรง อาจจะป่วยง่าย ถ้าประเทศร้อน อยู่กลางแจ้งมากอาจจะร้อนหงุดหงิดป่วยง่าย หรือไปประเทศหนาว อยู่กลางแจ้งอาจจะลมแรงและหนาวมาก
- การเดินทางในแต่ละวันไปง่าย ไม่ต้องเดินเยอะมากไป สำหรับเด็กเล็กมาก ๆ เราเลือกไปเที่ยวประเทศแรก สิงคโปร์ ตอนแพนด้าสามเดือนกว่า เพราะว่านั่งแท๊กซี่เที่ยวง่ายไม่แพงมาก แล้วเราจะได้สบายใจว่าไม่ต้องเอาลูกไปอึดอัดกับรถไฟ หรือตากแดดรอขึ้นรถเมล์ พอเรามั่นใจว่าเราเอาอยู่ละ ทริปต่อไปตอนแปดเดือนกว่าเราถึงพาไปนั่งรถไฟที่ญี่ปุ่นค่ะ
- เป็นประเทศที่ “baby-friendly” หรือ “kids-friendly” คือมีสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อแม่และเด็ก อย่างสิงคโปร์กับญี่ปุ่นจะได้คะแนนข้อนี้เยอะ เพราะพอเราศึกษาข้อมูลก่อนไปเที่ยวจะพบว่าที่เที่ยวต่าง ๆ รวมทั้งห้างสรรพสินค้า ส่วนใหญ่จะมีห้อง baby care หรือ nursing room เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับแม่เด็ก ซึ่งเหมาะมากกับเด็กเล็ก เพราะห้องนี้จะมีบริการตั้งแต่มีห้องให้นม (บางที่เป็นห้องประตูมิดชิด บางที่เป็นม่านกั้น แต่ก็จะสบายใจสำหรับแม่ให้นมใหม่ ๆ ที่ยังเขินกับการให้นมในที่สาธารณะ) มีเตียงเปลี่ยนผ้าอ้อม มีถุงพลาสติกให้ทิ้งผ้าอ้อมเก่า มีกาน้ำร้อนบริการให้ลวกขวดนม มีอ่างล้างมือ บางที่มีเครื่องอุ่นขวดนมด้วย คือแม่ให้นมแวะมาปั๊มนมที่นี่ก็ได้นะคะ
ทริปแรกเราเลือกประเทศที่แสนสบายอย่างสิงคโปร์ และแพนด้าไปมาแล้วสองรอบ ถึงจะเพิ่งมาได้ไปฮ่องกงตอนครบสองขวบแล้ว ญี่ปุ่นก็ไปมาแล้วสองรอบช่วงก่อนสองขวบ
มาเขียนห้าเหตุผลที่เชียร์ให้สิงคโปร์ และญี่ปุ่น เป็นประเทศแรก ๆ ที่ควรพาลูกไปเที่ยวตปท.ครั้งแรกค่ะ (อันนี้เรียงลำดับให้เลยตามความชอบส่วนตัว ^^) จริงๆ ฮ่องกงก็เป็นอีกประเทศที่น่าสนใจ แต่ส่วนตัวขอเก็บไว้เป็นลำดับสาม แล้วไปตอนโตหน่อย คือฮ่องกงเนี่ย หนึ่งในโปรแกรมหลักที่ต้องทำคือทัวร์กิน แล้วร้านอร่อยส่วนใหญ่ข้างถนนจะเล็ก ๆ โต๊ะแคบๆ เก้าอี้เล็ก ๆ ถ้าเอาเด็กเล็กไปจะกินกันไม่ค่อยอร่อยค่ะ เชื่อแพนด้าเถอะ :p ร้านส่วนใหญ่ให้จอดรถเข็นหน้าร้านด้วย เพราะฮ่องกงเป็นประเทศเล็ก ๆ แต่ประชากรเยอะ ที่แพง ร้านส่วนใหญ่เลยจะเล็ก ๆ พื้นที่จำกัดสุดๆ พาแพนด้าไปมาตอนสองขวบกว่า จะสบาย เพราะนั่งเองได้แล้ว
= เหตุผล 5 ที่เราคิดว่าสิงคโปร์เป็นประเทศน่าเที่ยวสำหรับเด็ก =
ข้อ 1 สิงคโปร์ เป็นประเทศที่มีระเบียบ และมีความปลอดภัยสูงเพราะระบบการบริการบ้านเมืองเค้าดีมาก ๆ เราว่ามันเป็น peace of mind อย่างนึงของการพาลูกเล็กเที่ยว ทำให้ตัดความห่วงความกังวลไปได้หลายอย่าง อีกเหตุผลนึงที่เราไม่พาลูกเที่ยวฮ่องกงตอนเด็กมาก ๆ เพราะเดี๋ยวนี้ฮ่องกงคนจีนเที่ยวเยอะ แล้วเราจะได้ยินพวกข่าวลือคนจีนลักพาตัวเด็กไปขาย เลยแอบนอยนิดนึง รอลูกโตหน่อยแล้วถึงจะพาไป
ข้อ 2 baby friendly สุด ๆ เราว่าห้อง nursing room กะ baby care room เยอะและหาง่ายกว่าญี่ปุ่นอีก เนื่องจากสิงคโปร์เป็นประเทศพูดภาษาอังกฤษทำให้เราหาข้อมูลง่าย จะมีเวบคุณแม่สิงคโปร์ที่เราชอบเข้าไปหาข้อมูลประจำเรื่องสถานที่เที่ยวที่เหมาะกับเด็ก แล้วคุณแม่สิงคโปร์เค้าแบบเป๊ะมาก เราเจอหลาย blog ที่มีรีวิวว่าห้างไหนมีห้องให้นมเป็นยังไง มีรูปพร้อมรีวิว นอกจากนี้ยังมีรีวิวว่าห้างไหนมีรถเข็นให้ยืมบ้าง และรถเข็นคุณภาพเป็นยังไง
ข้อ 3 สิงคโปร์เป็นประเทศที่สะอาด มาตรฐานสูง เราค่อนข้างสบายใจเวลาไปทานอาหารตามร้านต่าง ๆ ถึงแม้เด็กเล็กเราจะไม่ได้ให้ทานอาหารตามร้านก็ตาม แต่เราชอบเรื่องความสะอาดของร้านอาหาร คือมันจะต่างจากฮ่องกงที่เวลาไปก็ต้องไปทัวร์กินร้านอร่อยตามข้างถนนซึ่งจะแออัดคับแคบและไม่ได้ดูสะอาดเท่าไหร่ แล้วอีกอย่างที่ชอบคือแม้แต่ร้านข้าวมันไก่ Boontongkee ก็มีเก้าอี้เด็กพร้อมเซตจานชามเด็กให้ด้วยนะคะ
ข้อ 4 ค่าใช้จ่ายไม่แพงมากค่ะ ตั๋วเครื่องบินถูก ๆ เยอะ เดี๋ยวนี้ 2000 กว่าหาได้นะ ค่าเดินทางได้นั่งแท๊กซี่เลยสบายแพงหน่อย แต่ก็เป็นประเทศเดียวในสามประเทศที่แนะนำนี้ที่นั่งแท๊กซี่เที่ยวได้ไม่ได้แพงเกินเอื้อม ค่าอาหารไม่ถูก แต่ก็มีตัวเลือกที่ไม่แพงให้ทานอยู่ คือ food court สิงคโปร์อาหารไม่ขี้เหร่เลยนะคะ บ้านเราชอบ Boontongkee มาก ข้าวมันไก่กับซี่โครงหมู กินสองคน 20 กว่า SGD ก็พอได้อยู่ค่ะ
ข้อ 5 ชอบที่เที่ยวสิงคโปร์เดินทางง่ายมาก คือสิงคโปร์เองเป็นประเทศเล็ก ๆ ไปไหนก็รู้สึกไม่ไกล และที่เที่ยวสะดวกสำหรับเด็ก และมีที่เที่ยวให้ผู้ใหญ่ด้วย เหมาะกับการจัดทริปสั้น ๆ สามสี่วัน
อีกอย่างคือเราสองคนพ่อแม่คุ้นเคยกับสิงคโปร์อยู่แล้ว ก็เป็นอีกปัจจัยนึงนะคะ จะง่ายกับการเตรียมตัวเที่ยวด้วย ถ้าให้แนะนำว่าเที่ยวประเทศไรดีเป็นทริปต่างประเทศทริปแรกนะคะ ก็จะแนะนำทุกคนว่าสิงคโปร์เนี่ยแหละค่ะ (บางคนบอกไปฮ่องกงดีกว่ามั้ย ใกล้ๆ เหมือนกัน ส่วนตัวคิดว่าโอกว่าฮ่องกงนะ ฮ่องกงสะอาดสู้สิงคโปร์ไม่ได้ พวกห้องเบบี๋ nursing room ตามห้าง สถานที่ต่าง ๆ ไม่เยอะ ต้องเดินทางด้วยรถไฟ ไปแท๊กซี่ได้ แต่แท๊กซี่แพง)
= เหตุผล 5 ที่เราคิดว่าญี่ปุ่นเป็นประเทศน่าเที่ยวสำหรับเด็ก =
ข้อ 1 คล้าย ๆ สิงคโปร์ค่ะ ชอบเรื่องความเป็นระเบียบของประเทศญี่ปุ่น บ้านเมืองสะอาดมาก สถานที่เที่ยวต่าง ๆ ก็ดูแลดี ห้องน้ำที่ต่าง ๆ ก็สะอาด ไปทานข้าวร้านอาหารต่าง ๆ ก็รู้สึกว่าสะอาดและมีอาหารที่เด็กพอจะทานได้
ข้อ 2 อากาศดี ไม่ร้อน ถ้าเลือกไปช่วงที่ไม่ใช่หน้าหนาวจะสบาย ๆ ใส่เสื้อหนาวนิดหน่อย แต่เที่ยวไม่ต้องเหงื่อไหลไคลย้อย เด็ก ๆ ขี้ร้อนค่ะ เที่ยวสิงคโปร์นี่ต้องจัดสายเดี่ยวให้แพนด้า แล้วทากันแดด ไปญี่ปุ่นนี้แต่งตัวสวยๆ ได้
ข้อ 3 ที่เที่ยวเยอะค่ะ เที่ยวเท่าไหร่ก็ไม่หมด คงไปได้อีกหลายรอบ เราไปโตเกียวกับโอซาก้ามาแล้ว เนื่องจากเที่ยวกับเด็กก็ไม่ค่อยจะได้ครบตามโปรแกรม คงจะไปได้อีกหลายที ชอบญี่ปุ่นที่ที่เที่ยวมีเอกลักษณ์อย่างพวกวัดสวย ๆ อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ เราเองพาลูกเล็กไปเที่ยว ก็ไม่ได้จัดโปรแกรมเอาใจเด็กเท่าไหร่ค่ะ คือ Disneyland Disney Sea ก็ไม่ได้ไปนะคะ คิดว่าเด็กไปยังไม่รู้เรื่อง เที่ยวไม่คุ้ม ไปวัดซะเยอะ กับช้อปปิ้งเอาใจพ่อแม่ วัดและธรรมชาติเด็กก็ชอบนะคะ วิ่งเล่น สูดอากาศบริสุทธิ์ กินขนมอร่อย ^^
ข้อ 4 ญี่ปุ่นเป็นสวรรค์ของแม่ๆขาช้อป คืออย่างที่รู้กันอยู่แล้วพวก drug store เครื่องสำอางค์ ของเพื่อความสวยงามมีมากมายให้คุณแม่เลือกซื้อ อีกสิ่งนึงคือของเด็กที่ญี่ปุ่นน่าช้อปม๊ากก มีร้านเด็กดังๆ หลายร้านเช่น Akachan Honpo, Nishimatsuya หรือแม่แต่ Toysrus ซึ่งของจะไม่เหมือน Toysrus ประเทศอื่น คุณแม่ไปอยู่กันได้เป็นหลาย ๆ ชั่วโมงไม่เบื่อ ซึ่งการเที่ยวเองเป็นข้อดีที่เราสามารถเลือกไปช้อปร้านเด็กได้ ไปกะทัวร์เค้าไม่น่าจะพาไปนะคะ อันนี้เป็นหนึ่งในโปรแกรมหลัก ไปกี่ทีก็ไม่เบื่อ J
ข้อ 5 ระบบรถไฟดีมาก และครอบคลุมไกลมากค่ะ มีเวบออนไลน์ที่วางแผนการเดินทางได้ละเอียดมาก รถไฟก็สะอาดนะคะ พาลูกเที่ยวไม่รู้สึกว่าลำบาก ตามสถานีรถไฟมีห้องน้ำ เคยเข้าไปใช้บริการเปลี่ยนเพิสลูกอยู่หลายทีก็สะอาดค่ะ
แอบตินิดนึงของญี่ปุ่นคือเรื่องภาษา เพราะบางทีเราเที่ยวเองแล้วหลง จะหาคนบอกทางให้ภาษาอังกฤษนี่ย๊ากกกเย็น คือเราลองมาแล้วหลายแบบ เจ้าหน้าที่ตามสถานีรถไฟนี่แทบจะพูดไม่รู้เรื่อง ภาษามือโลด คนรุ่นใหม่อายุกลาง ๆ 30 บวกลบ ก็พอพูดได้ แต่ก้อใช้มือช่วยเยอะ เราลองถามนักเรียน คิดว่าเด็กรุ่นใหม่น่าจะพูดได้ กลายเป็นโยนกันไปมาระหว่างกลุ่มเพื่อนไม่มีใครกล้าพูด มีอยู่วันนึงที่ประทับใจคือเราหาทางไปร้านของเด็กที่โอซาก้า แล้วกำลังถามคนวัยคุณแม่ด้วยกันอยู่ แล้วมีคุณลุงแก่ๆ คนนึงเค้าอยู่ตรงนั้น เค้าเสนอตัวเองว่าเค้ากำลังจะไปตรงนั้น เดี๋ยวเค้าเดินไปส่ง คือประทับใจค่ะ ชวนคุยกันตลอดทาง เค้าก็ภาษาอังกฤษได้นิดหน่อย แต่พยายามคุยกับเรา น่ารักมาก ๆ