ในบางประเทศที่ระบบรถไฟเจริญมาก ๆ (เช่น ญี่ปุ่น หรือ ยุโรป) การเดินทางโดยรถไฟจะสะดวกและครอบคลุมสถานที่ต่าง ๆ ที่เราจะไปมากที่สุด

– บางสถานีรถไฟไม่ได้มีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับรถเข็นเด็ก เช่นไม่มีลิฟท์ หรือไม่มีบันไดเลื่อน ทำให้ต้องยกรถเข็น กระเป๋าเดินทางหนัก ๆ
– หลาย ๆ ประเทศ รถไฟเป็นการเดินทางที่คนท้องที่ใช้มากที่สุด เวลาเดินทางช่วงเวลาเร่งด่วน มักจะเจอคนเยอะมาก แออัด พาเด็กไปอาจจะอึดอัดและไม่สบายตัว

– สะดวกสำหรับการเดินทางกับเด็กและมีรถเข็นเด็ก เพราะแค่ต้องยกขึ้น/ลงรถ ไม่ต้องเสี่ยงกับบางสถานีรถไฟที่ไม่มีบันไดเลื่อนและต้องยกรถเข็นขึ้นลงบันไดไกล ๆ ลงรถ ไม่ต้องเสี่ยงกับบางสถานีรถไฟที่ไม่มีบันไดเลื่อนและต้องยกรถเข็นขึ้นลงบันไดไกล ๆ

– ได้ชมวิวรอบ ๆ เด็กเล็กจะเพลินเพลินมากกว่า

– มักจะไม่แออัดเท่ารถไฟ

– ในบางประเทศ รถเมล์ไม่ได้มีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับรถเข็นเด็ก (baby stroller/ pram) หรือรถเข็นคนสูงอายุ (wheel chair) อาจจะไม่มีที่วางรถเข็น หรือมีแต่ต้องพับรถเข็น ทำให้ใช้เวลาในการขึ้นลงรถนาน

– ระยะเวลาการเดินทางไม่แน่นอน อาจจะเจอรถติดทำให้ใช้เวลาเดินทางเยอะขึ้น

-บางครั้งป้ายรถเมล์อาจจะหายากกว่าหาสถานีรถไฟ ถ้าไปรอผิดป้ายจะเสียเวลา

– เหมาะกับบ้านที่สัมภาระเยอะ สามารถวางของได้เยอะทั้งในรถและท้ายรถ ใช้รถเข็นได้สะดวก

– สำหรับบางประเทศที่ค่าแท๊กซี่แพงมาก ๆ แท๊กซี่มักจะไม่ได้เป็นทางเลือกสำหรับการเดินทางแต่ละวัน แต่อาจจะต้องใช้สำหรับการเดินทางจากสนามบินมารร. เพราะสัมภาระเยอะ

– รถติดอาจจะทำให้ใช้เวลาเดินทางเยอะขึ้น และถ้าเจอแท๊กซี่ที่ขับพาหลงทางก็จะเสียเวลาและเงินโดยไม่จำเป็น

– การรอแท๊กซี่ บางประเทศจะต้องรอที่ taxi stand เท่านั้น จะไม่จอดตามถนนทั่วไป ทำให้ต้องศึกษาเส้นทางดีๆ ล่วงหน้า เพราะเดินหา taxi stand อาจจะเสียเวลาเหมือนกันค่ะ