เขียน blog มาครบปีละ ยังไม่เคยเขียนเรื่องนี้ซะที เป็นเรื่องที่ไม่น่าภูมิใจค่ะ ไม่เคยออกสื่อที่ไหนมาก่อน แต่คิดว่าแชร์เป็นประสบการณ์ไว้ให้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ได้ระวัง ทำไงไม่ให้ตกเครื่อง ^^

แพนด้าตกเครื่องค่ะ ใช่แล้ว ตกเครื่องบินนี่แหละ เรื่องนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ทริปสิงคโปร์ทริปแรกของยัยแพนด้าตอนสามเดือนกว่าเนี่ยแหละค่ะ ตอนนั้นก้อเครียดนะ คือแอบเซ็งเพราะทั้งพ่อและแม่เนี่ยบินกันบ่อยมาก เกิดมาไม่เคยจะตกเครื่อง ดั๊นมาตกเครื่องครั้งแรกตอนพายัยแพนด้าเที่ยว แต่ถามว่าเข็ดมั้ย? ไม่น่า จริงๆไม่ได้เกี่ยวไรกะลูกหรอก มันเป็นที่ความมึนของตัวพ่อและแม่นี่เอง ตอนนี้คิดย้อนกลับไปแล้วก็ขำ 😀 แต่ก็เป็นบทเรียนที่ดี เราจะไม่ตกเครื่องอีกแน่นอนค่ะ!!

จริงๆ เราจอง flight ไว้สบาย ๆ มาก คือ 2 ทุ่มกว่า ขากลับจากสิงคโปร์มาไทย และแพลนตารางวันสุดท้ายไว้หลวมมาก กะว่าจะถึงสนามบินก่อนซัก 3 ชม. เอาชัวร์ๆ มานั่งเล่นที่สนามบินรอเครื่องก็ได้ สรุปว่าเรามาเช็คอิน โหลดกระเป๋าก่อนบิน 3 ชม.ตามแพลนค่ะ แต่ทำไมถึงตกเครื่อง ?!? คงชิวไปมั้งคะ แหะ ๆ

จริงๆ สนามบิน Changi ไม่ได้ซับซ้อนอะไรมาก ไม่วุ่นวายไรไม่น่าหลง แต่บาง Gate ก็ไกลมาก ไม่ควรประมาทเหมือนเราค่ะ คราวนี้บิน AirAsia เราไปเสียเวลาตอนเช็คอินนิดหน่อยเพราะนน.กระเป๋าเกิน ต้องจัดใหม่ จัดแล้วท่าทางไม่ไหว ต้องซื้อนน.เพิ่ม เดินไปมาจ่ายตังค์ โหลดของใหม่ หลังจากนั้น เช็คอินเข้ามา ผ่านตม. เสร็จ เจอห้องให้นม คิดว่าชิวละ ให้นมมันตรงนี้รอเครื่องบิน ว่าแล้วก็กองสัมภาระมากมาย ห้องนี้เป็นของเรา เย่! (มุมนี้เงียบๆ นะคะ เดินเข้ามาผ่านตม.แล้วเดินลึกเข้ามาทางด้านซ้าย ด้านเดียวกับทางเดินไปห้องน้ำ Baby Care Room เดินผ่าน Coffee Beans & Tea Leaf เข้ามา ผ่านห้องน้ำ แล้วจะเจอโซนนี้อยู่ใกล้ๆ ร้านขายของเล่นเด็กค่ะ

20140712_193259.jpg

ในนี้มีช่องเสียบปลั๊กด้วย แบตเราจะหมดกันเพราะเที่ยวมาทั้งวัน ก็มาเสียบชาร์ตกันตรงนี้ สนามบินมี wifi เล่นเนตฟรีได้อีก ก็เล่นกันไป กะว่าชิวๆ ให้นมก่อน เดี๋ยวค่อยไปขึ้นเครื่อง

ปรากฏว่ายัยแพนด้าน้อยงอแง คาดว่าเพราะกลางวันนอนน้อย คือวันนี้เป็นตารางออกข้างนอกตั้งแต่เที่ยง check out ไม่ได้มีกลับไปนอนรร.รอบบ่ายเหมือนทุกวัน (ทริปนี้คุณหนูมากค่ะ เที่ยวเหนื่อยก็กลับมานอน อ่านทริปละเอียดได้ที่ลิงค์นี้นะคะ พาแพนด้าเที่ยวสิงคโปร์ตอนสามเดือน) กลางวันวันนี้กินนมไม่ค่อยเยอะด้วย อาจจะง่วง + หิวสะสม พอตกเย็นถึงสนามบินคงไม่ไหวละ ชีก็โวยวาย ๆ พยายามจะเอาเข้าเต้าก็ไม่ยอม ก็ปล้ำกันอยู่นานกว่าจะเหนื่อย สงบ และยอมเข้าเต้าเคลิ้ม ๆ ระหว่างนั้นพ่อและแม่ก็แทบจะไม่ดูนาฬิกานะคะ พลาดอย่างแรงอ่ะ แล้วยัยคุณพ่อก็นึกได้ว่ามีคนฝากซื้อของ ขอวิ่งกลับไปหาซื้อ duty free แป๊บ ยัยแม่ก็นั่งให้นมต่อเพลิน พอพ่อซื้อของเสร็จสบายใจกลับมา เราก็เตรียมตัวเก็บของดูนาฬิกา จะออกไปหน้า gate ตอนนั้นเหลือ 20 นาทีแล้วค่ะ คิดว่าคงต้องวิ่งๆ เฉียดฉิว ปรากฏว่า gate ไกลมากกกกก มันคือ gate ไกลที่สุดเลยค่ะ เราวิ่งๆ พร้อมรถเข็นกะกระเป๋า cabin size ล้อลากอันนึง วิ่งตลอดทาง หอบแฮ่กๆ ไปถึงหน้า gate ประมาณ อีก 7 นาทีก่อนเวลาเครื่องออก พอเราวิ่งมาถึงหน้า gate เราเห็นเครื่องบินกำลังขยับออกไปแล้วต่อหน้าต่อตา .. ช็อค อ่ะ คือเกิดมาไม่เคยตกเครื่อง แถมมียัยตัวเล็กอยู่ในรถเข็นกำลังทำตาแป๋วใส่

เราพยายามคุยกะพนักงานตรงหน้า gate ว่าทำอะไรได้มั้ย นี่ไงเรามาก่อนเวลาเครื่องออกนะ ทำไมออกก่อน เค้าบอก กฏคือคุณต้องมาถึงหน้า gate 20 นาทีก่อนเวลาบิน นี่มาเวลานี้คือเลท ไม่ทัน เราก็รู้ตัวว่าเราผิดอะนะ แต่ก็ลองอ้อนวอนดู ทั้งที่รู้ว่าคงทำไรไม่ได้ เซงจ้า คือเราคนไทย อาจจะเคยชินกะการสาย ๆ แล้วไม่เคยตกเครื่อง (บินการบินไทยบ่อย วิ่งมาถึงเครื่องเวลาซัก 10-15 นาทีก่อนบิน บางทีก็ยังมีคนมาหลังเราอีกนะ คงมีแต่ที่เมืองไทยมั้งคะ)

ที่นี้ตกใจ แต่ต้องคิด step ต่อไปว่า มันตกไปแล้ว ทำไรไม่ได้ ต้องทำไงต่อล่ะ

ตอนแรกใจแป้ว คิดว่า flight ต่อไปคือกี่โมงน๊า ถ้ามีอีกทีพรุ่งนี้ คืนนี้จะทำไง ตาย ๆ หารร.อยู่กะทันหัน กระเป๋าฉีกแน่เลย หรือจะกลับไปนอนห้อง baby care room ดี .. (ยังจะคิดได้น๊อออ :P) แถมค่าตั๋วใหม่อี๊กกกก

โชคยังดี ยังมีไฟลท์ดึกอีกไฟลท์ ซึ่งรอไม่นาน เราต้องไปทำเรื่องจองไฟลท์ใหม่ จ่ายตังค์ counter (มีจนท.พาเราไปจากหน้า gate ไป counter เค้าบอกนี่เค้าพามาให้นะ ปกติเค้าจะให้ไปเอง นี่เห็นมีเด็ก เลยสงสารมั้ง อันนี้เค้าไม่ได้พูด เราคิดเอง 555 เค้าช่วย แต่เค้าหน้านิ่งม๊ากก คนสิงคโปร์จะแอบเย็นชานิดนึงนะเราว่า) โดนไป 7000 กว่าบาทสำหรับสองคน เป็นค่าตั๋วเที่ยวกลับ thank god บิน Air Asia ค่าตั๋วถูก ไม่งั้นถ้าบินการบินไทยอาจจะแพงกว่านี้เท่านึงนะฮะ โชคยังมีนะเรา (นี่! อุส่าจะคิดบวก :p) สรุปว่าเรากลับถึงไทยแลนด์ โดยสวัสดิภาพ ไม่ต้องนอนสนามบินจ้าา

เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

  1. จองไฟลท์กลับเผื่อเวลาดีๆ คือถ้าไม่มั่นใจ จองดึกไปเลยจ้า มารอดีกว่าต้องรีบๆ มาก ๆ
  2. แต่ถ้าเป็นไปได้ ถ้าไฟลท์เยอะ อย่าจองไฟลท์ดึกสุด จองแบบให้มีดึกกว่าอันนึง เผื่อเหตุฉุกเฉินแบบเรา เช่นตกเครื่อง หรือเครื่องไฟลท์ที่จองมี emergency อะไร อย่างน้อยเรามีไฟลท์ที่เปลี่ยนตามไปได้
  3. ถ้าบิน low cost .. assume ไว้ก่อนว่าต้องเผื่อเวลาเยอะ เพราะ gate ส่วนใหญ่จะไกลสุด แล้วเข้มงวดเรื่องเวลาที่สุด ไม่ใจดีเหมือนพี่การบินไทยนะจ๊ะ
  4. ถ้าบินขากลับจากประเทศอื่น ก็ assume ไว้ก่อนเช่นกันว่าห้ามสาย จนท.อาจจะไม่ใจดีเหมือนคนไทยเวลาบินขาออกจากสุวรรณภูมินะคะ
  5. จัดตารางดี ๆ วันสุดท้ายไม่ควรมีอะไรที่ใช้ระยะเวลานาน หรือเดินทางนาน ต้องวางแผนการเดินทางจากที่เที่ยวจุดสุดท้ายไปสนามบินด้วย เผื่อเวลารถติดด้วย อาจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้นได้นะคะ
  6. ต่อให้วางแผนมาดีแค่ไหน พอถึงสนามบินแล้วก็ห้ามชะล่าใจเด็ดขาดค่ะ เช็คดีๆ ว่า gate ไกลมั้ย ถ้าไกล ต้องเผื่อเวลาเดินเยอะ ๆ เดินไปรอหน้า gate ก่อนเวลาหน่อยเถอะ ยิ่งมีเด็กยิ่งต้องเผื่อเวลาเพราะเราอาจจะเดินได้ช้าเพราะเข็นเด็ก + สัมภาระเยอะ
  7. ดูนาฬกาบ่อยๆ นะคะ อย่าชิวเกิน
  8. สำหรับแม่ให้นม ถ้าจะแวะ Baby Care Room ดูเวลาดีๆ อย่านั่งแช่นานค่ะเพราะมันไกลจาก gate มากอยู่ Baby Care Room เดินจากตม.เข้ามานิดเดียวประมาณ 1-2 นาทีเอง เพราะฉะนั้นจากจุดนั้นไป gate จะค่อนข้างไกล จริงๆถ้าลูกทานเต้า ใช้คลุมผ้าแล้วให้ลูกทานนมตอนรอที่หน้า Gate ก็ได้ค่ะ
  9. ดู Gate ดีๆ นะคะ เดินไปผิด Gate หรือผิดฝั่งนี่ ตกเครื่องได้เหมือนกันค่ะ
  10. เช็คข้อมูลสนามบินล่วงหน้าได้ก็ดีค่ะ จะได้พอรู้ว่าสนามบินกว้างมากมั้ย ซับซ้อนมั้ย ต้องเผื่อเวลาเยอะขึ้นมั้ย โดยเฉพาะบินตปท. ส่วนใหญ่ไปเจอสนามบินหลักเมืองนอกจะใหญ่ และวุ่นวาย หลงง่ายกว่าสนามบินสุวรรณภูมิของเรา สนามบินที่ไม่น่าจะกว้างแต่ดั๊นน เดินไกลมากที่เคยไปมาคือ KLIA2 ของมาเลเซีย คือถ้าบิน Airasia จะต้องเจอสนามบินนี้ค่ะ ไกลเว่อๆ เผื่อเวลาเดินจาก ตม.ไป gate ซัก 15-20 นาทีไปเลยค่ะ ถ้าประเทศใหญ่ ๆ เจริญ ๆ เผื่อเวลาไปเลยค่ะ เพราะสนามจะใหญ่ และคนเยอะ

ตกเครื่องแล้วมีผลอะไรมั้ย

  • เปลืองค่ะ ต้องจ่ายตังค์เพิ่ม ค่าตั๋วกลับอย่างเดียว
  • เสียเวลา อาจจะไม่มีไฟลท์กลับภายในวันเดียวกันก็ได้
  • เสียอารมณ์ ไม่มีใครอยากตกเครื่องหรอกเนอะ
  • ทำให้ขี้นอยมากขึ้น คราวหน้าต่อๆไประวังมากขึ้นจริงๆ ค่ะ เวลาไม่เฉียดฉิวมากเราก็วิ่งกันไว้ก่อนค่ะ กลัวๆ  🙂

ตกเครื่องแล้วต้องทำยังไง

  • ตั้งสติค่ะ อย่าตกใจ panic มาก ไม่ต้องโทษกัน ไม่ต้องทะเลาะกันค่ะ ผิดทั้งคู่ ไม่ช่วยกันดูนาฬิกา อย่าลืมว่ามีเด็กน้อยตาแป๋วมองเราด้วยความสงสัยอยู่นะคะ
  • เป็นเด็กนี่มันดีจริงๆค่ะ ไม่ต้องมีความเครียดใดๆ นี่คือหน้าแฮปปี้หลังจากตกเครื่องแล้ว

20140712_203148(0).jpg

  • สอบถามเจ้าหน้าที่เรื่องขั้นตอนว่าต้องทำยังไง เราเคยตกครั้งเดียวเลยไม่รู้ว่าสายการบินอื่นมีขั้นตอนยังไง ขอเล่าแต่ของ airasia นะคะ
  • ของเราเจ้าหน้าที่จะโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตรง counter ขายตั๋วไว้เลย
  • เค้าจะให้เราจองไฟลท์ถัดไปเลย เดินไปถึง counter ก็จ่ายตังค์อย่างเดียว
  • จ่ายเสร็จทำไรคะ อย่ารอช้า เดินเร็วๆๆๆ ไปรอที่หน้า gate ของไฟลท์ถัดไปสิคะ ไม่นะ ชั้นจะไม่ตกเครื่องรอบสอง ไปรอมันหน้า gate เลย  (สรุปว่าเรานั่งรอแป๊บเดียวเค้าก็เรียก boarding แล้ว เพราะเวลาบินสองไฟลท์ห่างกันนิดเดียว แล้วเราเสียเวลาเดินไปมาก็เยอะเหมือนกัน สนามบินจะกว้างไปไหนน้อ

 

happy trip ใครวางแผนเที่ยวอยู่ขอให้เที่ยวให้สนุกนะคะ^^

Baby Emergency Management ตอนอื่น ๆ อ่านได้ที่นี่จ้าา ..

Singapore Trip – Baby Emergency Management #1 เรื่องอึเรื่องใหญ่
Singapore Trip – Baby Emergency Management #2 เหตุเกิดบนเครื่องบิน

เมื่อลูกอ้วกบนรถ และของใข้จำเป็นที่ควรมีบนรถ | baby emergency management – vomit in the carseat


Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s

%d bloggers like this: