พอจองตั๋วเครื่องบินได้แล้ว สิ่งถัดไปที่สำคัญที่ต้องรีบทำคือเตรียมตัวขอวีซ่าค่ะ เพราะอาจจะต้องใช้เวลารวบรวมเอกสารนิดนึง เราสามารถทำวีซ่าได้ 3 เดือนล่วงหน้าก่อนการเดินทางนะคะ
ก่อนอื่นขอแนะนำเวบไซต์ทางการของการขอวีซ่าอังกฤษนะคะ เพราะถ้าเรา search หา จะเจอเวบที่เป็นตัวแทนขอให้ซะเยอะ ซึ่งส่วนใหญ่จะคิดค่าบริการเพิ่มเติมจากค่าธรรมเนียมการขอวีซ่าค่ะ แค่ค่าธรรมเนียมวีซ่าก็แพ๊งแพงละ วันนี้แพนด้าเลยอยากจะมาแนะนำวิธีการขอวีซ่า ว่ามันไม่ได้ยุ่งยากอะไรมากมาย ขอเองก็ได้ ประหยัดเงินไปเยอะค่ะ เห็นหลาย ๆ ตัวแทน / เวบของ agent เค้าคิดค่าบริการเพิ่มอีกเป็นหลักพันบาทเลยนะคะ
เวบไซต์นี้เลยค่ะ ซึ่งจะมีข้อมูลทั่ว ๆ ไป เช่น ดูประเภทวีซ่าที่เหมาะกับคุณ (ในรีวิวนี้ขอพูดถึงวีซ่าท่องเที่ยวนะคะ) ระยะเวลาการทำ ค่าใช้จ่าย เอกสารที่ต้องเตรียม ฯลฯ
https://www.gov.uk/apply-uk-visa
สำหรับประเภทที่เราจะทำคือวีซ่า Standard Visitor Visa
== ขั้นตอนคร่าวๆ ==
- สมัคร account ออนไลน์ เพื่อกรอกใบสมัคร และปริ้นท์ออกมานำไปยื่นค่ะ สามารถสมัคร account เดียว เพื่อกรอกใบสมัครหลายคนได้ เช่น แม่สมัครคนเดียว ทำให้สามคนพ่อแม่ลูกได้
https://www.visa4uk.fco.gov.uk/home/welcome
2. กรอกข้อมูลออนไลน์ ในขณะเดียวกันก็เตรียมเอกสารไปด้วย เมื่อกรอกข้อมูลครบถ้วนก็ปริ้นท์ออกมา พร้อมแนบเอกสารต่าง ๆ ที่สถานทูตแจ้งว่าให้เตรียมไปด้วย หลักๆ ตามนี้นะคะ
- พาสปอร์ต ถ้ามีเล่มเก่าเอาไปด้วยนะคะ
- หลักฐานการเงิน คือ statement ย้อนหลังหกเดือนจากธนาคาร
- เอกสารรับรองการทำงานและเงินเดือน
- เอกสารการจองตั๋วเครื่องบิน
- เอกสารการจองโรงแรม
- โปรแกรมการเดินทางแบบละเอียดสำหรับแต่ละวัน เราทำเองง่าย ๆ ใน excel ค่ะ
3. พอเรากรอกข้อมูลออนไลน์เสร็จ เค้าจะมีปุ่มให้กด confirm แล้วนัดวันเข้าไปค่ะเพื่อเอาเอกสารไปส่ง และแสกนลายนิ้วมือ (เค้าเรียกว่าระบบ biometrics) ต่อหน้าเจ้าหน้าที่ และถ่ายรูปหน้าตรง ซึ่งเคยอ่านมาจากที่อื่นว่าเจ้าหน้าที่อาจจะทำการสัมภาษณ์ได้ถ้าเห็นว่าจำเป็น แต่ของเราสามคนก็แสกนนิ้ว ถ่ายรูป แล้วก็เสร็จเลยค่ะ ในขั้นตอนนี้จะมีให้กดจ่ายค่าธรรมเนียมด้วยค่ะ 133 USD เด็กผู้ใหญ่เท่ากัน ค่าเงินแพ๊งแพง คูณออกมาเกือบห้าพันแน่ะ -_-”
4. ข้อมูลที่เรากรอกไว้ในระบบออนไลน์ เราต้องปริ้นออกมานะคะ เพื่อรวมกับเอกสารทุกอย่างพร้อมยื่น มันเยอะมาก มี 10 กว่าหน้าได้มั้ง ค่อยๆกรอกไปค่ะ มันเป็นระบบ log in เข้าไปกรอก ถ้าวันไหนกรอกๆแล้วไม่เสร็จ เซฟไว้ วันหลังมากรอกใหม่ได้ค่ะ เวลาปริ้นก็นับดีๆค่ะ อย่าให้ขาด ไม่งั้นต้องมาปริ้นข้างหน้า vfs center แผ่นตั้ง 25 บาท แพ๊งแพง
5. ถึงเวลาก็ไปตามนัดค่ะ สถานที่ทำวีซ่าคือ VFS Global เป็น Visa application center คือเค้าเป็นตัวแทนอย่างเป็นทางการของสถานทูตอีกที ไม่ต้องไปทำที่สถานทูตนะคะ ที่ตั้งคืออยู่ที่ซอยสุขุมวิท 13 ตึก Trendy Office Building เข้าซอยไปอยู่ขวามือเลย หาง่ายมากค่ะ ขึ้นไปชั้น 28 ที่เดียวกับที่ทำวีซ่าออสเตรเลียและแคนาดา
6. ที่จอดรถชั้น 5 เดินเข้าตึกมาจะมีลิฟท์ให้ลงมาชั้น G เพื่อเปลี่ยนลิฟท์ขึ้นไปชั้น 28 ค่ะ
7. ถ้าขาดเหลืออะไร ลืมปริ้นท์เอกสารหรือถ่ายเอกสาร ด้านบนชั้น 28 มีบริการด้วยนะคะ ซีรอกแผ่นละสามบาท ถูกกกว่าข้างล่าง แต่ค่าปริ้นแพงพอๆกันค่ะ 20-25 บาท
8. ออกจากลิฟท์ชั้น 28 ด้านหน้ามีเจ้าหน้าที่ตรวจกระเป๋า เค้าจะให้ปิดมือถือด้วยค่ะ ถ้าต้องคุยธุระอะไรคุยให้เสร็จก่อนเข้านะคะ ผ่านจากตรวจกระเป๋าก็รับบัตรคิวได้เลยค่ะ แล้วเข้าด้านในรอเรียกคิว ที่เราไปยื่นมาตอนปลายธันวา รอแป๊บเดียวค่ะ ไปเสียเวลาตรงเอกสารไม่ครบ วิ่งขึ้นวิ่งลง เข้าออกปริ้นเอกสาร
9. ยื่นเอกสารแล้วเจ้าหน้าที่จะเช็คว่าครบมั้ย อย่างที่บอกไปตอนแรก ที่กรอกออนไลน์ปริ้นออกมานับดีๆนะคะ ของเรามาเจอว่ามีบางแผ่นหาย ต้องไปปริ้นด้านหน้า เสียเวลาอยู่ค่ะ
10. เจ้าหน้าที่จะรับเอกสารแพ็คใส่ซอง แล้วให้เราไปรอคิวต่อที่ห้องเก็บลายนิ้วมือพร้อมถ่ายรูป แค่นี้เป็นอันเสร็จค่ะ
== ข้อมูลน่ารู้สำหรับวีซ่าเด็ก ==
- ต้องพาเด็กไปด้วย เพราะต้องถ่ายรูปค่ะ
- เวลายื่น สามารถบอกว่าใช้เอกสารเหมือนพ่อหรือแม่หมดก็ได้ เค้าจะพิจารณาด้วยกันไปเลย
- เด็กตัวเล็ก แต่ค่าวีซ่าเท่าผู้ใหญ่เลย
- ตอนกรอกใบสมัครเค้าจะให้ใส่ว่าเดินทางกะใคร เราก็จะต้องใส่ชื่อพ่อแม่ ตอนได้วีซ่ามา จะระบุว่าต้องเดินทางกะพ่อและแม่เท่านั้น (ใส่เลขพาสปอร์ตพ่อแม่มาเลยในวีซ่า)
- ต้องใช้สูติบัตร และต้องมีฉบับแปล ไปแปลได้ที่ศูนย์รับแปลเอกสารชั้น G แปลด่วนใน 15 นาทีคิด 500 ค่ะ โหดจุง
- ต้องใช้รูปหน้าตรง (ถ่ายไปก่อน) ในการยื่นขอวีซ่า แต่รูปนั้นจะไม่ได้ถูกใช้ในเล่มนะคะ เค้าจะใช้รูปที่เราไปถ่ายวันนั้นแหละในวีซ่า ดังนั้น ให้ลูกกินอิ่มนอนพอ จะได้อารมณ์ดีๆตอนถ่ายรูปนะคะ ^^
- ถ้าไม่ได้เดินทางกับพ่อแม่ ต้องมีเอกสารยินยอม Letter of consent ให้พ่อแม่เซ็นต์ แต่ถ้าพ่อแม่เดินทางด้วยก็ไม่ต้องมีค่ะ
== บริการเพิ่มเติม มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม (อันนี้ไม่เชี่ยวชาญแต่ลองถามเจ้าหน้าที่เพิ่มเติมดูได้นะคะ จริงๆถ้าเป็นไปได้ เก็บตังไว้เที่ยวเถอะค่ะ ทำด่วยแพ๊งแพงอ่า) ==
24 Hours – Super Priority Visa Service – £600 (33,000 Baht)
Priority Visa Service – Non Settlement Visa – £120
Priority Visa Service – Settlement Visa – £360
หวังว่าข้อมูลจะมีประโยชน์นะคะ ^^
อ่านต่อ
ติดตามผล หลังยื่นวีซ่าท่องเที่ยวอังกฤษ UK Visa 2016 | LittlePanda in UK