ว่ากันเรื่องพี่เลี้ยงเด็ก ลูกเราติดพี่เลี้ยงมากไปรึเปล่า / Tips สำหรับคุณแม่ทำงานนอกบ้าน

ลูกเราติดพี่เลี้ยงกันมากไปรึเปล่า??

ไปเจอแคมเปญของสิงคโปร์ ชื่อ ‪#‎igiveadayoff‬ เค้าต้องการจะรณรงค์ให้ครอบครัวสิงคโปร์ให้แม่บ้าน หรือพี่เลี้ยง มีวันลาบ้าง เพราะส่วนใหญ่เค้าทำงานกันก็จะใช้พี่เลี้ยงตลอด แล้วเสาร์อาทิตย์ ส่วนใหญ่ก็จะนิยมใช้กัน ช่วยอำนวยความสะดวก พี่เลี้ยงก็เลยไม่ค่อยได้ลา พี่เลี้ยงก็น่าสงสารนะคะ ถ้าไม่ได้ลาอาจจะได้เงินเยอะขึ้น แต่ก็แลกกับการไม่ได้ใช้เวลาอยู่กับครอบครัวของตัวเอง

แต่โฆษณาตัวนี้พยายามใช้แง่มุมของการที่ลูกติดพี่เลี้ยง มีผลกระทบอะไรกับแม่เด็ก ในโฆษณาจะเป็นการสัมภาษณ์แม่เด็ก กับพี่เลี้ยง ถามคำถามเรื่องความชอบทั่วไปของลูก แต่ส่วนใหญ่พี่เลี้ยงจะตอบถูกเยอะกว่า แล้วจบท้ายด้วยคำถามว่า “เราควรใช้เวลาอยู่กับลูกให้มากกว่านี้มั้ย” ดูแล้วก็รู้สึกว่าน่าสนใจนะคะ คือถ้าลูกยิ่งโตแล้วยิ่งคุยรู้เรื่อง ถ้าไม่มีเวลาคุยกะเค้า เค้าอยู่กะพี่เลี้ยงก็ต้องสนิทกันอยู่แล้ว ลองคิดว่าถ้าเป็นตัวเองจะต้องเสียใจแน่ๆ เลย

maxresdefault

ตัวเองเป็น working mom ทำงาน full time ค่ะ เลยแอบโดนใจนิดนึง

หนึ่งในสาเหตุที่ชอบพาลูกเที่ยวมาก ๆ ก็เพราะการที่เราต้องทำงานเนี่ยแหละค่ะ จันทร์-ศุกร์ กลางวันลูกอยู่กับพี่เลี้ยงกะอาม่า เราเลยจะมีความรู้สึกนอยอยู่ลึกๆ ตลอดเวลาว่ากลัวลูกสนิทกะคนอื่นมากกว่าเรา คือเคยได้ยินเพื่อนเล่าว่าเด็กบางคนแบบติดพี่เลี้ยงไม่เอาแม่ไรงี้ แบบว่ากลัวอะ

จริงๆไอ้แคมเปญนี้คนไม่ชอบก้อเยอะค่ะ คือเค้าหาว่าทำไมต้องมาโทษแต่แม่ว่าแม่ทำงานแล้วไม่มีเวลาให้ลูก แล้วพ่อล่ะ พ่อไม่ต้องรับผิดชอบหรือไง ฯลฯ อันนั้นเราโนคอมเม้น

mom n maid

แต่เราว่าไอ้เรื่องการใช้พี่เลี้ยงก็เป็นเรื่องที่ควรจะ balance ไม่ใช่แค่เรื่องน้ำใจหรือการเป็นคนจ้างงานที่ดีเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของการใช้เวลาอยู่กะลูกเราเองด้วยเน้อ ..

ลองคลิกเข้าไปดูที่ลิงค์ข้างล่างเลยค่ะ

#igiveadayoff campaign by O&M Singapore – VDO 

#igiveadayoff campaign by O&M Singapore – article 

จริงๆการเป็น working mom ต้องทำงานด้วยเลี้ยงลูกด้วย มันก็เหนื่อย ก็เพลียนะ บางทีกลับมาบ้านอยากพัก ก็เข้าใจแม่ๆที่บางบ้านใช้พี่เลี้ยงทุกวันค่ะ คือแบบเสาร์อาทิตย์ถ้าไม่ใช้พี่เลี้ยงเราจะเหมือนไม่ได้พักเลย บางคนบอกเหนื่อยกว่าทำงาน 555

แต่สำหรับเราเอง เราก็แอบรู้สึกว่า แค่เค้าอยู่กะพี่เลี้ยงทุกวันๆๆ กลางวัน นับจำนวนชม.มันก็เยอะแล้วนะ ถ้าเรากลับมาบ้าน จากตอนเย็นถึงเวลานอน มันไม่กี่ชม.เอง ก็เลยพยาย๊ามพยายาม อยู่กะเค้าเยอะ ๆ นอกจากวันธรรมดา ก็เสาร์อาทิตย์นี่แหละที่เราจะได้อยู่กะเค้ายาวๆ ของบ้านเราจริงๆพี่เลี้ยง+แม่บ้านเค้ากินนอนกะเราค่ะ คือทำทุกวันเลย แต่เดือนนึงเค้าลาหยุดไปเที่ยวได้2-3 วัน เราก็ไม่ได้ strict นะ เสาร์อาทิตย์นี่เป็นวันกึ่งๆ ฟรีของเค้า คือบางทีเราจะตื่นสาย ๆ ถ้าไม่มีไรก็ไม่เรียกใช้เค้า เราดูลูกเอง ให้เค้ามาเก็บบ้าน ทำความสะอาดให้ไรงี้มากกว่า

บางทีอยากจะไปกินข้าวกะเพื่อนบ้างอะไรบ้าง ก็จะหนีบลูกไปด้วย คือไปไหนที่เอาลูกไปด้วยได้ก็จะเอาไปค่ะ ไปงานแต่งงานบ้าง ไปซื้อของซุปเปอร์ เหลืออย่างนึงที่ยังเอาไปไม่ได้คือไปดูหนัง ซึ่งสามีชอบดูมาก ก็พยายาม balance คือมีวันไปดูหนังกะสามีบ้าง (ฝากลูกไว้กะพี่เลี้ยงและอาม่า) ไม่งั้นสามีจะน้อยใจเอา จริงๆแอบอยากอยู่กะลูกมากกว่า แต่ต้อง balance ค่ะ ต้องทำหน้าที่ทั้งภรรยาและแม่ของลูกด้วยเนาะ 🙂

ถามว่าลูกเราติดพี่เลี้ยงมั้ย เราว่าติดมากนะ (นี่ขนาดพาออกเสาร์อาทิตย์ตลอด พาเที่ยวตจว. และตปท. บ่อยมาก เวลาเที่ยวคือไม่เคยเอาพี่เลี้ยงไป) อาจจะเป็นเพราะว่าเราเดินทางบ่อยค่ะ มีเดินทางทำงานประชุมตปท.ทุกเดือน เดือนละครั้งสองครั้ง เวลาไป ลูกก็จะอยู่กะอาม่า และมีพี่เลี้ยงประกบเพราะตอนกลางคืนต้องอุ่นนมป้อนนม บางครั้งเราดุลูก ลูกงอแง มีโผหาพี่เลี้ยงบ้าง เรานี่ใจแป้วบ่อย ๆ เราว่าเค้ารู้แหละความแตกต่างระหว่างแม่กับพี่เลี้ยง แต่เราก็จะนอยเรื่อย ๆ เรื่องลูกติดพี่เลี้ยง เราเลยมีแรงฮึดให้ทำกิจกรรมกะลูกตลอดๆ

หลักการของเราที่พยายามใช้คือ

1. ใช้พี่เลี้ยงเป็นตัวช่วย คือให้เลี้ยงลูกแต่เวลาที่เราเลี้ยงเองไม่ได้ คือตอนเราไปทำงานไม่อยู่บ้าน

2. ใช้พี่เลี้ยงผ่อนแรงอย่างอื่น เวลาอื่นที่เราอยู่บ้าน พี่เลี้ยงมีหน้าที่เก็บกวาด คอยเก็บของที่ลูกเล่น เตรียมข้าวให้ลูก (แต่เราทำเองนะ เราว่ามันเหนื่อย แต่ข้าวลูกเรา เราว่ามันสำคัญอะ ต้องทำเอง) ล้างจานข้าว เช็ดที่ลูกทำเลอะ ไรประมาณนี้ มันก็ผ่อนแรงไปเยอะนะสำหรับแม่ๆ ที่ต้องการพักเสาร์อาทิตย์

3. วันธรรมดา จะพยายามมาแตะมือกะพี่เลี้ยงประมาณหกโมงกว่า คือเลิกงานห้าโมง กลับมาบ้านดูลูกต่อ พี่เลี้ยงจะมาช่วยตอนเรากินข้าวเย็น หลังจากนั้นคือหมดหน้าที่ละ

4. อาบน้ำให้ลูก เนื่องจากเราทำงาน วันธรรมดาจะไม่ได้อาบน้ำให้ลูกเพราะส่วนใหญ่ลูกตื่นสาย ก็จะเหลือตอนเย็นก่อนนอนที่อาบได้ เราก็เลยจะชอบอาบเอง ไม่ให้พี่เลี้ยงช่วย

สองสามทุ่มเราจะพาลูกอาบน้ำ แต่ก่อนตอนยืนไม่คล่อง ต้องเอาลูกใส่อ่างอาบน้ำ ให้เล่นของเล่น แล้วเราอาบ shower เอา (คือสามีกิจกรรมเยอะ บางทีก็ทำงานเลิกดึก กลับดึก ส่วนใหญ่จะอยู่กะลูก เอาลูกนอนเองเป็นประจำค่ะ) เดี๋ยวนี้ยืนได้แล้ว ก็สบายเลย อาบน้ำ shower ด้วยกันสองคนแม่ลูก ^^

5. พาลูกออกนอกบ้าน คือคิดว่าธรรมชาติคุณแม่ทำงานนอกบ้าน อาจจะเบื่อมั้ยคะถ้าจะต้องมาอยู่บ้านเยอะ ๆ ส่วนตัวเองไม่ชอบอยู่บ้านค่ะ แหะๆ ชอบเที่ยวอะ ก็จะชอบพาลูกออกนอกบ้าน ไปซื้อของ เดินช้อปปิ้งก็ยังดี บางทีวันเสาร์อาทิตย์สามีไม่อยู่ ไปตีกอล์ฟ เราก็ไม่อยากอยู่บ้านอยู่ดีอ่ะ ก็จะชอบพาลูกออกด้วย และไม่เคยเอาพี่เลี้ยงไปด้วยเลย เพราะ 1. ขึ้เกียดดูแล ชวนคุย อยากมีเวลาส่วนตัวกะลูกบ้างนินา 2. คือไม่ได้ละ อิดฉา ลูกติดพี่เลี้ยงไปละ 3. คือให้พี่เลี้ยงพักด้วย ให้ทำแต่งานบ้าน ซึ่งวันธรรมดาไม่ค่อยได้ทำ เพราะต้องเลี้ยงเด็ก

ถามว่าพาลูกไปข้างนอกสองคนยากมั้ย ไม่ง่ายค่ะ แต่ฝึกได้ เริ่มจากฝึกลูกให้มีวินัยนั่ง car seat แต่เด็กนะคะ เราให้นั่งตั้งแต่สองเดือนกว่า ถ้าไม่ฝึก โตแล้วฝึกยากมากนะคะ และการที่ลูกนั่ง car seat ได้นี่คุณแม่ชีวิตดีมากนะคะ ไปไหนก็ได้ ไม่ต้องรู้สึกซึมเศร้า เหงา เบื่ออยู่บ้าน เวลาสามีไม่ว่างพาไป

มาเชียร์ให้คุณแม่ working mom มามี nanny-free day กันมากขึ้นค่ะ ไม่ใช่เพื่อ nanny อย่างเดียว เพื่อ relationship คุณแม่คุณลูกด้วยค่ะ ^^


One response to “ว่ากันเรื่องพี่เลี้ยงเด็ก ลูกเราติดพี่เลี้ยงมากไปรึเปล่า / Tips สำหรับคุณแม่ทำงานนอกบ้าน”

  1. ใช้พี่เลี้ยงแต่พอดี | give nanny a day off | Little Panda's Travel Diary Avatar

    […] Source: ว่ากันเรื่องพี่เลี้ยงเด็ก ลูกเราติ… […]

    Like

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s

%d bloggers like this: