เขียนเรื่องพาลูกเที่ยวมาหลายทริปละ มาเขียนเรื่องพาลูกเที่ยวตั้งแต่อยู่ในท้องบ้างค่ะ (ก็คือพาแม่เที่ยวละเนอะ ^^)
เดี๋ยวนี้คนเที่ยวตอนท้องมากขึ้นนะคะ บางคนเรียก babymoon คล้าย ๆ honeymoon เนอะ เที่ยวสวีทก่อนลูกจะออกมาป่วนให้สวีทกันยากขึ้น ^^ หลายๆคนบอกว่าเป็นการเที่ยวทิ้งทวน เพราะลูกออกมาแล้วจะอดเที่ยว หรือได้เที่ยว แต่ก็คงสวีทกันเหมือนเดิมไม่ได้แล้น เพราะมีคุณลูกออกมาเป็น กขค 🙂
ตอนเราท้องก็คิดไว้ค่ะ ว่าอยากจะเที่ยวมันเยอะ ๆ เลย เพราะคิดว่าลูกออกมาอดเที่ยวแน่ๆ แต่ตอนเดือนแรก ๆ ก็จำศีลอยู่บ้านพักใหญ่เลยค่ะ เพราะมีเลือดออก ตอนนั้นก็นอยว่าทำไมเราไม่แข็งแรง แย่แล้วอดเที่ยวแน่ ๆ อดเที่ยวยาวเลยมั้ยเรา
คำถามที่คนส่วนใหญ่มักจะสงสัยกันคือ เมื่อไหร่ถึงจะเที่ยวได้ จะปลอดภัยมั้ย กลัวแท้ง ฯลฯ ประมาณนี้ค่ะ
อันนี้ตอบจากประสบการณ์ของตัวเองและหาข้อมูลเพิ่มเติมนะคะ
เที่ยวเมื่อไหร่ดี
จริงๆแล้วการเที่ยวเป็นเรื่องดีนะคะสำหรับคนท้อง เพราะเป็นการผ่อนคลาย คลายเครียด อะไรที่ทำแล้วมีความสุข ว่าที่คุณแม่มีความสุข ลูกในท้องก็มีความสุขไปด้วยค่ะ โดยทั่วไปแล้ว อายุครรภ์ที่ปลอดภัยที่สุด และดีที่สุดสำหรับว่าที่คุณแม่นะคะ คือประมาณ 4 – 6 เดือน คือไตรมาสที่สอง
ไตรมาสแรก คือ ตั้งครรภ์เดือนที่ 1-3 ช่วงเดือนแรก ๆ อาจจะไม่เหมาะกับการเที่ยว (ทั้งใกล้และไกล) เพราะครรภ์ยังไม่แข็งแรง น้องยังเกาะไม่แน่นค่ะ และเป็นช่วงที่ตามสถิติแล้วสามารถแท้งได้ 1 ใน 4 เลย เพราะฉะนั้นเราสามารถลดความเสี่ยงได้โดยการดูแลตัวเอง และอาจจะเลี่ยงการเดินทางถ้าไม่จำเป็นค่ะ นอกจากนี้ เดือนแรกๆ ส่วนใหญ่จะยังมีอาการแพ้ท้อง และอาการต่างๆ ของการตั้งครรภ์ (เช่น ท้องอืด ท้องเฟ้อ อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย) อาจจะทำให้เที่ยวไม่สนุกค่ะ
ไตรมาสที่ 3 คือครรภ์เดือนที่ 7-9 จริงๆ แล้วเป็นช่วงที่น้องติดและมีโอกาสแท้งน้อยลงแล้วค่ะ แต่จะมีความไม่สะดวกสบายมากขึ้นคือท้องใหญ่มาก เดินทางไม่สะดวก คุณแม่อาจจะเพลียง่าย ปวดเมื่อย ขาเป็นตะกริว นอนหลับยาก ฯลฯ และเป็นช่วงที่อาจจะเกิดการคลอดก่อนกำหนดได้ จึงเป็นช่วงที่ควรต้องระวัง และดูแลตัวเองให้ดีๆหากอยากจะเที่ยวค่ะ
ดังนั้น ไตรมาสที่ดีที่สุดที่จะเที่ยวคือตรงกลางนั่นเอง ไตรมาส 2 ช่วง 4-6 เดือน ขนาดท้องยังไม่ใหญ่เกินไป และน้องเกาะแน่นแล้ว โอกาสแท้งน้อยกว่าไตรมาสแรก
ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องดูเป็นกรณีๆไปนะคะ ว่าที่คุณแม่แต่ละคนมี condition และสุขภาพไม่เหมือนกันค่ะ จึงควรปรึกษาแพทย์ทุกครั้งก่อนไปเที่ยวหรือเดินทางไกลนะคะ แพทย์ที่ฝากครรภ์จะสามารถให้คำแนะนำได้ดีที่สุดค่ะว่าเราแข็งแรงและเดินทางได้มั้ยค่ะ เดินทางใกล้ หรือ ไกลก็ปรึกษาคุณหมอไว้ก่อนนะคะ จะได้สบายใจว่าเราพร้อมและแข็งแรง แน่ๆ ค่ะ
ตั้งครรภ์แล้วขึ้นเครื่องบินได้มั้ย
ตอบคล้าย ๆ ข้างบนนะคะ คือโดยทั่วไปการเดินทางโดยเครื่องบินไม่เป็นอันตรายกับเด็กในท้องค่ะ ส่วนใหญ่ สายการบินจะมีกฏกำหนดอายุครรภ์ที่สามารถเดินทางได้ เป็นช่วงอายุครรภ์ใกล้คลอดค่ะ (ไตรมาสสาม ซึ่งนอกจากจะเป็นเรื่องของความปลอดภัยของผู้โดยสารที่ตั้งครรภ์แล้ว ก็เป็นการลดความเสี่ยงที่ผู้โดยสารจะคลอดบนเครื่องด้วยค่ะ) แต่จะไม่ได้มีแนะนำว่าอายุครรภ์เท่าไหร่ในไตรมาสแรกที่ไม่ควรบิน (เข้าใจว่าส่วนนึงคงสังเกตผู้โดยสารยากด้วยค่ะ คือบางคนถ้าไม่บอกก็อาจจะดูไม่ออกว่าท้อง) เพราะฉะนั้น อันนี้เป็นวิจารณญาณของผู้โดยสารเองนะคะ
อันนี้เป็นตารางสรุปข้อกำหนดของสายการบินต่าง ๆ ค่ะ (เลือกมาบางสายการบินที่นิยมบินกันนะคะ) ว่าอายุครรภ์เท่าไหร่ถึงบินได้ และอายุครรภ์เท่าไหร่ที่บินได้ แต่ต้องมีใบรับรองแพทย์ค่ะ
สายการบินส่วนใหญ่ให้บินถึงอายุครรภ์ 28 สัปดาห์ แล้วพอ 28 สัปดาห์ขึ้นไปถึงจะต้องมีใบรับรองแพทย์นะคะ ว่า Fit to fly หรือแข็งแรงพร้อมที่จะเดินทางได้ และข้อมูลที่สำคัญคืออายุครรภ์และวันกำหนดคลอดค่ะ แต่ส่วนตัวคิดว่าถึงจะท้องไม่เกิน 28 สัปดาห์ ก็ควรขอใบรับรองแพทย์ไว้ก่อนและพกติดตัวไว้ค่ะ เผื่อว่าสายการบินขอดู เพราะแต่ละคนขนาดท้องเล็กใหญ่ไม่เท่ากัน คือเกิดเราท้องใหญ่มาก แล้วจนท.สายการบินไม่เชื่อว่าท้องไม่เกิน 28 สัปดาห์ จะเสียเวลาเถียงกัน หรือเค้าอาจจะไม่ให้เราขึ้นบินได้นะคะ
หลาย ๆ สายการบินจะมีข้อกำหนดเยอะกว่าหากเป็นท้องแฝด หรือเป็นครรภ์ที่มีปัญหา (รกเกาะต่ำ มีประวัติคลอดก่อนกำหนด เป็นต้น) โดยสายการบินอาจจะมีเพิ่มเติมให้กรอกแบบฟอร์มเพิ่มเติมจากใบรับรองแพทย์ ซึ่งกรอกละเอียดเรื่องสภาวะครรภ์ของผู้โดยสารที่ตั้งครรภ์ค่ะ ชื่อฟอร์มแต่ละสายการบินก็เรียกต่างๆกันไปค่ะ แต่ส่วนใหญ่เค้าจะมีให้ดาวน์โหลดในเวบเลย
ลองอ่านข้อกำหนดโดยละเอียดจากเวบไซต์ของสายการบินต่างๆ คลิกที่ลิงค์นี้เลยค่ะ
ส่วนตัวตอนท้องคนจะเตือนเยอะค่ะว่าช่วงไตรมาสแรกให้เลี่ยงการเดินทางโดยเครื่องบิน อย่างที่บอกว่าไตรมาสแรกจะมีความเสี่ยงในการแท้งมากที่สุด คือ 1 ใน 4 ซึ่งการเดินทางบนเครื่องบินอาจจะมีเรื่องของความดันอากาศ ความเหนื่อยจากการเดินทาง (โดยเฉพาะหากเดินทางไกลหลายชั่วโมง) ซึ่งล้วนแต่เพิ่มความเสี่ยงค่ะ เพราะฉะนั้นถ้าจะเอาปลอดภัย เลี่ยงได้ก็ดีค่ะ ส่วนตัวเคยเดินทาง (แค่ใกล้ ๆ บินสองชม.) ตอนท้องประมาณ 4 วีค คือก่อนจะตรวจเจอว่าท้องค่ะ แต่หลังจากนั้นก็งดเดินทาง จนครบสี่เดือนค่ะ เนื่องจากตัวเองมีเลือดออกตอน สัปดาห์ที่ 5-7 ต้องฉีดยากันแท้ง (คุณหมอวินิจฉัยว่าแท้งคุกคาม)
เพราะฉะนั้นถ้าให้ตัวเองแนะนำ ก็จะเชียร์คนที่รู้จักให้รอให้ถึงสี่เดือนค่อยเที่ยว หรือเดินทางไกลค่ะ และถ้าหากแข็งแรง (ต้องไม่ใช่แค่คิดเองว่าแข็งแรงนะคะ ต้องให้แพทย์ที่ฝากครรภ์คอนเฟิมด้วยว่าเราแข็งแรงค่ะ) เชียร์ให้เที่ยวต่อตอนไตรมาสสุดท้ายด้วยค่ะ เอาถึงซัก 8 เดือนกว่ายังพอไหวค่ะ คือคิดซะว่าทิ้งทวนให้เต็มที่ เพราะไม่รู้ว่าคลอดเสร็จแล้วชีวิตจะเปนไง เหอๆ จะเหนื่อยจะยุ่งมากมั้ยไรงี้ค่ะ ตัวเองอดเที่ยวไปตอนไตรมาสแรกเพราะไม่แข็งแรง มาเก็บเอาตอนสี่ห้าเดือนเริ่มไปเที่ยวทะเลค่ะ หกเดือนกว่าไปไกลเลย นิวซีแลนด์ (บิน 9 ชม.ไปลงซิดนีย์ ต่อเครื่องอีกประมาณสองชม.ไปลงไครสเชิร์ช) เจ็ดเดือนไปอุดร เลย ลาว (บินในประเทศไปลงอุดรแล้วนั่งรถเที่ยว และข้ามไปลาว) ปิดท้ายด้วยตอนแปดเดือนไปเที่ยวฉลองวาเลนไทน์ที่ระยองค่ะ
ดูแลตัวเองยังไงเมื่อเดินทางตอนท้อง
– ปรึกษาคุณหมอที่ฝากครรภ์ทุกครั้งก่อนเที่ยวนะคะ คุณหมอจะให้คำแนะนำได้ด้วยว่าต้องระวังอะไรมั้ยด้วยค่ะ
– คอยสังเกตุตัวเองบ่อย ๆ ค่ะ ระวังอย่าให้เหนื่อยเกินไป คอยดูว่าทำอะไรหนัก แล้วท้องแข็งอะไรงี้มั้ย ต้องคอยพักค่ะ
– ระวังเรื่องการเข้าห้องน้ำ คนท้องเข้าห้องน้ำบ่อย อย่าอั้นนะคะ อันตราย อาจจะทำให้เป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ และมีผลกับเด็กในครรภ์ได้ค่ะ
– ถึงแม้จะต้องเข้าห้องน้ำบ่อย ก็ไม่ควรอดน้ำนะคะ คนท้องควรทานน้ำเยอะ ๆ ไม่งั้นถ้า dehydrate ก็ไม่ดีกับสุขภาพเช่นเดียวกันค่ะ คอยจิบน้ำบ่อย ๆ ค่ะ
– พกขนมของทานเล่นที่มีประโยชน์ไปด้วยระหว่างเดินทาง เพราะจะหิวบ่อย และเดี๋ยวจะปวดท้องไม่สบายตัวค่ะ พกสิ่งที่ชอบไป เพราะเดินทางบางที่อาจจะไม่มีของที่เราอยากทานค่ะ ส่วนตัวชอบพกพวกถั่วอัลมอนด์ นม หรือนมถั่วเหลือง และ energy bar เอาแบบเป็นข้าวโอ๊ตหรือโฮลวีต พกสะดวกดีค่ะ
– หากเดินทางบนเครื่องบิน หรือนั่งรถหลายชั่วโมง ให้คอยยืดเส้นยืดสาย ยืดขา กันเป็นตะคริวค่ะ หาอะไรรองเท้า เพื่อป้องกันเท้าบวมค่ะ
เอาใจช่วยว่าที่คุณแม่ทุกคน ขอให้สุขภาพแข็งแรง ๆ ค่ะ