เมื่อพูดถึงเรื่องพาลูกเที่ยวเมืองนอก อีกเรื่องนึงที่คุณพ่อคุณแม่มักจะเป็นห่วงกันคือการพาลูกขึ้นเครื่องบิน ลูกจะปวดหูมั้ยน๊า ลูกงอแงทำยังไง
เบบี๋ยังเล็ก ถ้าเค้าไม่สบายตัว หรือเป็นอะไรเค้ายังพูดยังบอกเราไม่เป็น เพราะฉะนั้นคุณพ่อคุณแม่ต้องเตรียมตัวดี ๆ ค่ะ
ช่วงเวลาสำคัญเลยคือช่วงเครื่องบินขึ้น กับเครื่องบินจะลง เพราะเป็นช่วงที่ความดันอากาศเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว อย่างเราผู้ใหญ่ก็จะหูอื้อกัน เราก็สามารถหาว หรือเคี้ยวหมากฝรั่ง ก็จะหายหูอื้อใช่มั้ยคะ เด็ก ๆ ก็หูอื้อได้เช่นกัน และอาจจะตกใจปวดหูแล้วร้องงอแงได้ค่ะ
แต่เราสามารถป้องกันได้ค่ะ
วิธีที่ส่วนใหญ่แนะนำกันคือให้ลูกดูดนม ก็น่าจะเป็นหลักการเดียวกับเวลาผู้ใหญ่เคี้ยวหมากฝรั่งนะคะ จะช่วยให้ปรับความดันในหูได้ดีขึ้น ส่วนตัวให้ลูกเข้าเต้าเลยค่ะ แต่ถ้าคุณลูกชอบดูดขวดให้ดูดขวดก็ได้นะคะ คุณแม่อาจจะอุ้มกอดลูกไว้ให้เค้าดูดนมเพลินๆ หรือใช้จุกหลอกก็ได้เหมือนกันค่ะ สามวิธีนี้น่าจะเหมาะกับเบบี๋เล็ก ไม่ถึงขวบค่ะ
ถ้าเด็กโตหน่อยสามารถให้ทานขนมทานเล่นของเด็กแบบที่ต้องเคี้ยวแทนก็ได้นะคะ
ที่นี้จะให้ลูกดูดตอนไหนดีล่ะ เพราะเกิดบางทีลูกดูดแป๊บเดียวแล้วเครื่องยังอยู่ในช่วงกำลังเปลี่ยนแปลงระดับความสูงอยู่ทำยังไง อันนี้แชร์จากประสบการณ์ส่วนตัวเองนะคะ
* ขาขึ้น กะให้ take off ก่อน เครื่องลอยแป๊บนึงแล้วค่อยเข้าเต้าค่ะ เพราะเคยเข้าเต้าเร็วไป แต่เครื่องวิ่งๆ ไม่ขึ้นซะที ปรากฏว่าลูกอิ่มหลับก่อน เครื่องยังไม่ขึ้นเรย ไรงี้ ก็ต้องมากังวลว่าลูกจะปวดหู แล้วถ้าเค้าอิ่มหรือหลับ จะจับเข้าเต้าอีกก็ยากค่ะ
* กะเวลากินนมให้พอดี มื้อก่อนขึ้นเครื่องให้ทิ้งช่วงประมาณเท่าเวลาที่ลูกจะหิว ซักสองสามชม. ลูกกะลังหิวพอดีจะให้ความร่วมมือในการดูดนมได้ดีค่ะ แต่อย่าทิ้งช่วงนานจนโมโหหิวนะคะ เดี๋ยวจะยิ่งงอแง โมโห บางทีเวลาโมโหไม่ยอมเข้าเต้าก็มีนะคะ
* ขาลงจะกะเวลายากหน่อยค่ะ บางทีกัปตันจะประกาศว่าจะเริ่มลดระดับลงสูท่าอากาศยานฯฯ แล้ว แต่ช่วงนั้นจริงๆจะยังไม่ได้ลงฮวบฮาบ ให้สังเกตแอร์กะสจ๊วตค่ะ พอเค้าไปนั่งเข้าที่รัดเข็มขัดเมื่อไหร่อันนั้นคือจะลงจริงๆแล้ว ค่อยให้ลูกดูดนมตอนนั้นจะพอดีค่ะ
* ถ้าลูกอิ่มปิดปากไม่ยอมดูดนมล่ะ บางคนไม่ยอมกินจริงๆ ก็กอดเค้าไว้แน่นๆค่ะ เคยมีรอบนึงตอนเครื่องลงพยายามบังคับลูกเข้าเต้าแต่เค้าง่วงมาก กลายเป็นทำเค้าโวยวายร้องไห้ พอปล่อยนอนก็หลับสบายดี เครื่องลงจอดเค้าก็สงบไม่เป็นไรค่ะ
เรื่องอื่น ๆ ที่สามารถเกิดขึ้นได้บนเครื่องให้คุณพ่อคุณแม่เตรียมตัว
* เบบี๋หงุดหงิดนั่งกะที่นาน ๆ อาจจะต้องเตรียมของเล่นไปหลอกล่อกันค่ะ จริงๆ จะพาเดินเล่นนิดหน่อยก็แก้เมื่อยทั้งคุณพ่อคุณแม่คุณลูกนะคะ แต่ส่วนตัวแนะนำว่าถ้าไม่จำเป็นอย่าเดินเยอะ คือถ้าฝึกให้เค้านั่งกะที่ได้ เค้าก็นั่งได้นะคะ ไม่งั้นจะกลายเป็นเคยตัว เดินกันเหนื่อย (เบบี๋เค้าฉลาดค่ะ เค้ารู้ว่าเราใจดีพาเดินเค้าก็จะอ้อนๆ ให้เดิน)
* แหวะนมหรืออ้วก อันนี้ต้องระวังเหมือนกันค่ะ เราให้ลูกเข้าเต้าเพื่อให้ลดโอกาสหูอื้อ ปวดหู แต่ถ้ากินเยอะไปอาจจะแหวะนมหรืออ้วกได้ ดังนั้นก่อนขึ้นควรทิ้งช่วงกินนม ไม่งั้นลูกกินเยอะไปอาจจะกินไม่ลง เบบี๋บางคนยังเด็กมากไม่รู้ว่าตัวเองอิ่ม เค้าก็ดูดๆ ไป ถ้าเยอะไปอ้วกได้ค่ะ
อันนี้จากประสบการณ์ตรงค่ะ ทริปแรกขึ้นเครื่องครั้งแรก ขาขึ้นเราก็ตื่นเต้นให้ลูกเข้าเต้าอยู่หลายทีค่ะ แบบว่าพอเครื่องเหมือนกะลังจะออกก็ให้เข้าเต้า เห็นไม่ take off ซะทีก็ให้ลูกพักกิน แล้วพอจะ take off ก็กินอีกที แต่เหมือนจะกินเยอะไป พอเครื่องขึ้นเสร็จ ลูกอ้วกออกมาหมดเลย น่าจะหมดที่ดูดไปอะค่ะ เลอะทั้งแม่ทั้งลูกเลย (มาอ่านเจอทีหลังว่าเป็นอีกอาการที่เกิดขึ้นได้ค่ะ เป็นเรื่องความดันอากาศเหมือนกัน เบบี๋เค้าปรับไปทันเค้าก็อ้วกออกมาได้) โชคดีคุณลูกอ้วกออกมาแล้วก็งงๆ แต่ไม่ได้ร้องไห้โวยวายอะไร เ
ลูกอ้วกบนเครื่องบินทำยังไงดี
ก็ทำเหมือนเวลาลูกอยู่บ้านแล้วอ้วกแหละ 55 มันอาจจะตะกุกตะกักหน่อยเพราะไม่มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกเหมือนอยู่บ้าน แต่สิ่งสำคัญคือ
** อย่าตกใจเกินไป แล้วอย่าโวยวายใส่กันค่ะ เพราะเบบี๋จะตกใจไปด้วยแล้วงอแงได้ค่ะ ของเราเองพอลูกอ้วกปุ๊บก็ตกใจนะ แว่บแรกคิดว่าแย่ละ ไม่สบายรึเปล่า เพิ่งจะเริ่มเที่ยวเอง จะเป็นไรมั้ย ห่วงไปต่าง ๆ นา ๆ เพราะลูกไม่ค่อยอ้วกอ่ะ แต่เราก็ตั้งสติบอกลูกว่านู๋ไม่เป็นไรนะคะ ปลอบลูกไปก่อน เราเชื่อว่าถ้าเรานิ่งลูกจะรู้สึกอุ่นใจไม่เป็นไร ก็จะไม่ตกใจร้องไห้ เค้าก็ไม่ตกใจร้องไห้เลยนะ แค่งงๆ
** รีบเปลี่ยนชุดค่ะ ไม่งั้นเปียกไม่สบายตัวนาน จะงอแง หรือเป็นหวัดอีก ถอดชุดเลยแล้ว baby wipe เช็ด ๅ
** ตอนนั้นบิน low cost แอร์ไม่สนใจมาช่วยเลยนะคะ แอบคิดว่าโชคดีที่มีคุณพ่อไปด้วยนะ ไม่งั้นคนเดียวจะทำไงน๊า เคยพาเบบี๋บินการบินไทย แอร์ดู helpful กว่าเยอะ ก็ราคามันต่างกันอะเนอะ
** จริงๆ แล้วถ้าถึงสนามบินแล้วอยากเช็ดล้างให้สะอาดขึ้น เค้าก็มีห้อง baby care room ให้ในสนามบินที่พอจะสะดวกเปลี่ยนชุดอะไรได้นะคะ แต่วันนั้นมัวแต่ตื่นเต้นลืมไปเลย ก็ออกมาขึ้นแท๊กซี่ไป รร. เลย
** ลองขอ early check-in ที่รร.เลยค่ะ ปกติเค้าให้ check-in บ่ายสอง พวกเราถึงรร.ตอน 11 โมงกว่า ก็ลองขอ early check-in ดูเผื่อฟลุ๊ค ก็ขอความเห็นใจเค้าค่ะ เล่าให้ฟังว่าเบบี๋น้อยเพิ่งอ้วกมา เหม็นมากไม่สบายตัว ถ้าให้เช็คอินก่อนเราจะได้รีบพาเบบี๋อาบน้ำ หรือถ้าไม่งั้นมีห้องอะไรให้เราอาบน้ำลูกก่อนได้มั้ย พนักงานก็น่ารักมากค่ะ (Park Royal on Pickering อยู่แถว china town – รร.ดีค่ะ บริการดี recommend ค่ะ) รีบเช็คให้ แล้วบอกว่ามีห้องว่างพอดี เช็คอินให้เราเลย เบบี๋น้อยของมามี๊โชคดีจริงๆ ได้อาบน้ำสบายตัว หน้าตาร่าเริงเช่นนี้ เบบี๋ตัวเล็ก ๆ ก็อาบมันในอ่างล้างหน้านี่แหละค่ะ เคยเห็นเค้าขายอ่างน้ำแบบพกพา ก็รู้สึกว่าไม่จำเป็นนะ เปลืองที่กระเป๋า ลูกโตขึ้นอีกหน่อยก็อาบอ่างอาบน้ำผู้ใหญ่กะเราได้ละ
กระเป๋าเล็กของเบบี๋จำเป็นที่ควรหิ้วขึ้นเครื่อง
– เบสิคต่างๆ แพมเพิส ผ้าอ้อมผ้า (สารพัดประโยชน์มาก ๆ ใช้เช็ดอ้วกเบบี๋เป็นต้นค่ะ พกใส่กระเป๋าเล็กไว้ซักสามสี่ผืน ถ้ากลัวเปลืองที่ เอาไปแค่นี้แล้วซักเอาวันต่อวันก็ได้ ผ้าอ้อมมันบาง ๆ แห้งเร็วค่ะ) วาสลีน เบบี้วิกส์
– ชุดเบบี๋ 1-2 ชุด เผื่อฉุกเฉินต้องเปลี่ยน (เจออ้วกแบบนี้ต้องเปลี่ยนทั้งชุดละค่ะ)
– เสื้อหนาว ถุงเท้า อย่าคิดว่าเบบี๋ขี้ร้อนจะไม่จำเป็น บางทีเค้าก็หนาวขึ้นมา บนเครื่องมันเย็น เตรียมไว้ไม่เสียหายค่ะ เบบี๋ป่วยจะไม่คุ้ม
– ยาสามัญ แก้ไข้ แก้ปวดท้อง ท้องอืด พกไปค่ะ เบบี๋สองสามเดือนนี่ยังท้องอืดบ่อย พกยาติดตัวไว้ดีกว่าค่ะ
จริงๆ ถ้าเดินทางขึ้นเครื่องบินครั้งแรกก็ควรลองให้เบบี๋เดินทางใกล้ ๆ ก่อนค่ะ อย่างสิงคโปร์สองชม.ก็ยังพอโอเคไม่นานเกิน หรือถ้าลองบินในประเทศใกล้ ๆ ก่อนก็ได้นะคะ ถือว่าซ้อม ดูซิว่าคุณลูกไหวมั้ย เบบี๋ตัวเล็ก ๆ พูดไม่เป็น คุณพ่อคุณแม่ต้องสังเกตุเยอะ ๆ ค่ะ อะไรระวังได้ก็ระวังไว้ก่อนค่ะ ค่อยๆ เริ่มจากเที่ยวสบายๆ คุณหนู ๆ ไปก่อน พอเค้าเริ่มชิน คุณพ่อคุณแม่เริ่มคล่อง ค่อยสมบุกสมบันขึ้นค่ะ
#enjoyeverywherewithyourbaby #babyontheplane #singapore
Baby Emergency Management ตอนอื่น ๆ อ่านได้ที่นี่จ้าา ..
Singapore Trip – Baby Emergency Management #1 เรื่องอึเรื่องใหญ่
เมื่อลูกอ้วกบนรถ และของใข้จำเป็นที่ควรมีบนรถ | baby emergency management – vomit in the carseat